สำนักงาน ป.ป.ช. 26 ก.ย. – รองผู้บังคับการ บก.ปปป. เผยมีข้อมูลวัดในภูมิภาคและ กทม.ส่อโกงงบอีก 100 แห่ง คาดใช้เวลา 3-4 เดือน รวบรวมหลักฐาน ชี้วัด 99% ไม่รู้เรื่อง
พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน กองกำกับที่ 1,2,4,5 และ 6 นำสำนวนคดีทุจริตเงินทอนวัด จำนวน 21คดี รวม 33 แฟ้ม ส่งให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการเอาผิดข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัด
พ.ต.อ.วรายุทธ กล่าวว่า ในวันศุกร์ที่ 29 ก.ย.จะส่งสำนวนคดีอีก 2 วัด คือ วัดบำเพ็ญเหนือ และวัดราชสิทธารามราชวรวิหาร โดยในส่วนของพระครูวิสุทธิวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชสิทธารามราชวรวิหาร ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา ขณะนี้กำลังใหัปากคำอยู่ที่บก.ปปป. คดีทุจริตเงินทอนวัด ล็อต 2 มีผู้ต้องหารวม 19 คน จาก 23 วัด ประกอบด้วย ข้าราชการ 13 คน ประชาชน 2 คน และพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ 4 รูป รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 140 ล้านบาท อย่างไรก็ตามขณะนี้พบข้อมูลว่ามีวัดในภูมิภาคและใน กทม.อีกราว 100 วัดที่มีแนวโน้มการทุจริต เนื่องจากพบการเบิกจ่ายงบประมาณบางโครงการสูงกว่าปกติ คาดว่าใช้เวลาราว 3-4 เดือนในการรวบรวมหลักฐาน
รองผบก.บก.ปปป. กล่าวว่า รากฐานการโกงหรือทุจริตเงินทอนวัด เกิดจากเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ระดับผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ หรือ ผู้อำนวยกอง ซึ่งเป็นความผิดส่วนบุคคล ร้อยละ 99 วัดไม่ได้รู้เห็นด้วย และแม้จะมีพระชั้นผู้ใหญ่เกี่ยวข้องกับคดีก็ไม่ส่งผลต่อการทำงาน เพราะได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้อำนวยการ พศ. ทั้งคนปัจจุบันและคนก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ได้ทำหนังสือกราบบังคมทูล สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ให้ทรงทราบ และแจ้งไปยัง พศ. รวมถึงศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ซึ่งในจำนวนข้าราชการที่เกี่ยวข้อง 13 คน มี 4-5 คน เกษียณไปแล้ว
ด้านนายสุทธิ บุญมี ผอ.สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ป.ป.ช. กล่าวว่า ป.ป.ช.กำลังพิจารณาแต่งตั้งอนุไต่สวนเป็นองค์คณะใหญ่ เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับวัดในภูมิภาค ก็จะให้ ป.ป.ช.ภาค ดำเนินการ .-สำนักข่าวไทย