fbpx

ตัดสินจำคุก-รอลงอาญา คดีทุจริตเงินทอนวัด

กทม.19 ก.พ.- ศาลคดีทุจริตฯ จำคุกอดีตผู้บริหารระดับสูงของ พศ.และรอลงอาญาอดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ คดีทุจริตเงินทอนวัด


ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดอ่านคำพิพากษา คดีพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2  ยื่นฟ้องนายพนม ศรศิลป์ อายุ 60 ปี  อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) , นายชยพล พงษ์สีดา อายุ 64 ปี อดีตรอง ผอ.สำนักงาน พศ. , นายณรงค์เดช ชัยเนตร อดีต ผอ.กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา , นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี อายุ 50 ปี อดีตนักวิชาการศาสนาชำนาญการ กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา ,  อดีตพระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข หรือนายธงชัย สุขโข อายุ 64 ปี อดีตพระราชาคณะเจ้าคณะรอง และอดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร , อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นจำเลยที่ 1-5 เมื่อวันที่ 24 ต.ค.61


ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ  ทำ  จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่น โดยทุจริตหรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,157 ประกอบมาตรา 83,86,91 

คดีนี้พนักงานอัยการขอศาลให้มีคำสั่งจำเลยที่ 1-5 ร่วมกันคืนเงินจำนวน 69,700,000 บาท คืนแก่สำนักงาน พศ. ผู้เสียหาย พร้อมขอให้ศาลนับโทษจำคุก “นายพนม” อดีต ผอ.สำนักงาน พศ. จำเลยที่ 1 กับคดีร่วมทุจริตการจัดสรรเงินงบ พศ.ของศาลนี้ และ “พระพรหมสิทธิฯ” อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ จำเลยที่ 5 กับคดีร่วมฟอกเงินของศาลนี้ด้วย

สำหรับพฤติการณ์ที่กล่าวหาในสำนวนคดี ระบุว่า ระหว่างวันที่ 29 ต.ค.58 – 22 ก.ค.59 พวกจำเลย ได้เบียดบังเอาเงินงบประมาณ ของสำนักงาน พศ.ประจำปี 2559 จำนวน 69,700,000 บาท (จากวงเงินงบประมาณประจำปี 2559 จำนวน 5,360,188,000 บาท) ไปเป็นประโยชน์ของตน  โดยใช้ ‘วัด’ เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดรับโอนเงิน ด้วยการให้ ‘วัด’ โดยเจ้าอาวาส เสนอโครงการเพื่อรับเงินสนับสนุนที่เบียดบังมา จากที่ได้มีการพิจารณาอนุมัติโครงการเงินอุดหนุนในโครงการอบรมคุณธรรมจริยธรรมจำนวน 37,200,000 บาท และโครงการศูนย์กลางเผยแผ่กิจการพระพุทธศาสนาจำนวน 32,500,000 บาท ซึ่งวัดสระเกศฯ ได้รับอนุมัติเงินไปเพียงวัดเดียว โดยเมื่อวันที่ 11 เม.ย.61 “พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์” ผอ.สำนักงาน พศ.ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งมีการส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนตามกฎหมาย


วันนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว นายพนม จำเลยที่ 1 ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำมาฟังคำพิพากษา ส่วน “พระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข” อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เพิ่งได้รับการประกันตัวเมื่อวันที่ 15 ส.ค.62 ก็เดินทางมาฟังคำพิพากษาโดยสวมใส่ชุดสีขาว  

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1-4 เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นตามมาตรา 157 ให้เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม พิพากษาจำคุกจำเลย ที่ 1 2 ปี 12 เดือน, จำเลยที่ 2-4 จำคุก 3 ปี 18 เดือน  ส่วนจำเลยที่ 5 ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุน เจ้าพนักงาน สำนักพระพุทธศาสนาฯให้กระทำความผิด  ด้วยการทำหนังสือขออนุมัติเงินอุดหนุนในการเผยแพร่โครงการส่งเสริมจริยธรรมฯของวัดสระเกศฯ จำนวน 2 โครงการ และเมื่อได้รับเงินแล้วมีการแจ้งกลับไปยังกลุ่มจำเลย ซึ่งแม้เงินดังกล่าวจะนำไปใช้ในการเผยแพร่กิจกรรมพระพุทธศาสนาจริงแต่ก็ไม่ครบถ้วนตามวัตถุประสงค์ที่มหาเถรสมาคมกำหนดไว้ พิพากษาจำคุก 36 เดือน, ปรับ 27,000 บาท แต่เห็นว่าจำเลยที่ 5 เคยประกอบคุณงามความดีให้กับสังคมมาโดยตลอดจึงเห็นควรให้รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี

ด้านนายโฆสิต สุวินิจจิต ตัวแทนคณะศิษย์อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ  ยืนยัน พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ไม่มีการกระทำทุจริตเกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่เป็นการสนับสนุนการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานเท่านั้น  โดยการเซ็นเอกสาร ขออนุมัติงบสนันสนุนฯ ซึ่ง อาจจะไม่ทราบว่าขั้นตอนทางราชการดำเนินการอย่างไร  ก็อยากให้กลุ่มชาวพุทธให้เข้าใจ และสบายใจว่า ท่านไม่ได้ทุจริต  ซึ่งจากการพูดคุยกับท่านๆ ก็สบายใจขึ้น  เพราะพ้นมลทินในคดีทุจริต และ หากอัยการอุทธรณ์คดี ก็พร้อมต่อสู่้  และ ขณะนี้ ยังเหลืออีก 1 คดี  ที่ร่วมกันฟอกเงิน สำหรับ ปัจจุบัน อดีตพระพรหมสิทธิ ฯ ก็ยังคงรักษาศีลและปฎิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด  โดยไม่ได้มีการเปล่งวาจา ลาสิขาบท  และระหว่างถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ รวมทั้ง ภายหลังได้ประกันก็ยังคงปฎิบัติกิจอย่างเคร่งครัด เช่นเดิม ซึ่งตอนนี้ก็พำนักอยู่ทั้งในพื้นที่ กทม. และต่างจังหวัด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME