ฟันข้อหาหนักมือยิง ตร.สายไหม ยังให้การวกวน

ยิงตำรวจ

กทม. 4 ม.ค. – “ช่างสันต์” มือยิงตำรวจสายไหม เสียชีวิต ยังมีสภาพเมาค้าง ให้การวกวน ตำรวจเตรียมสอบปากคำเพิ่ม ฟันข้อหาหนักฆ่าเจ้าพนักงาน ก่อนคุมตัวไปทำแผนพร้อมฝากขัง ด้านญาติยอมรับชอบดื่มสุรา มีนิสัยเงียบขรึม


พนักงานสอบสวน สน.สายไหม นำตัว นายอรรณพ หรือช่างสันต์ ออกจาห้องคุมขังไปสอบปากคำเพิ่มเติมในช่วงเช้าวันนี้ (4 ม.ค.) หลังจากถูกควบคุมตัวได้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (3 ม.ค.) กรณีใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิง ร.ต.ท.บรรรัง เกษาพร อายุ 55 ปี รอง สวป.สน.สายไหม เสียชีวิตบริเวณหน้าร้านตัดผม เชิงสะพานเฉลิมพงศ์ ถนนเฉลิมพงศ์ แขวงและเขตสายไหม กทม. โดยช่างสันต์ ยังมีท่าที คล้ายคนเมาค้าง มีภรรยาและเพื่อนนำอาหารมาเยี่ยม

ด้าน พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี รอง ผกก.(สอบสวน) สน.หายไหม กล่าวว่า วันนี้ตำรวจจะทำการสอบปากคำช่างสันต์เพิ่มเติม เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ช่างสันต์ ยังไม่สามารถให้การได้ โดยหลังสอบปากคำแล้วเสร็จ วันนี้ก็จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จากนั้นก็จะนำตัวไปฝากขังศาลอาญามีนบุรี พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นเหตุอุกฉกรรจ์และมีอัตราโทษสูง จากการปากคำสอบผู้ต้องหายังให้การวกวน จึงต้องทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนข้อเท็จจริง เบื้องต้นทั้งสองคนไม่รู้จักกันมาก่อน ส่วนการมีปากเสียง ช่างสันต์ มีปากเสียงกับบุคคลอื่นแล้วตำรวจเข้าไประงับเหตุ ขณะที่ผลการตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย คาดว่าจะทราบผลในวันนี้


เบื้องต้น พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่, ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะและยิงปืนในที่สาธารณะ”

ด้านเพื่อนของผู้ต้องหาบอกว่า ในฐานะที่เป็นเพื่อนกันรู้จักช่างสันต์มาตั้งแต่เด็ก ปกติจะเป็นคนเงียบขรึมไม่ได้เก็บกด ทำงานซ่อมรถมานานกว่า 10 ปี ตนเองก็เป็นลูกค้าประจำ ทุกครั้งที่เจอกันก็จะมีการสังสรรค์ และรู้ว่าช่างสันต์ ชอบดื่มสุรา ดื่มแล้วก็จะเข้านอน ส่วนวันเกิดเหตุตนเองไม่ทราบว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น จึงไม่สามารถตอบได้ เช่นเดียวกับภรรยาของผู้ต้องหา ปฏิเสธไม่รู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะปกติช่างสันต์จะทำงานอยู่ที่บ้านจนกระทั่งมาเกิดเหตุ ซึ่งตนเองมาอยู่ที่สถานีตำรวจตั้งแต่เมื่อคืน จนกระทั่งถึงเช้าก็ยังไม่ได้พูดคุยกับสามี จึงไม่ทราบข้อเท็จจริง

ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ตำรวจได้นำตัวภรรยาของช่างสันต์ ไปค้นหาอาวุธปืนที่อู่ซ่อมรถ เนื่องจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้ขับรถ จยย. หลบหนี ก่อนที่ตำรวจจะสกัดจับได้ ซึ่งช่างสันต์ได้นำอาวุธปืนขนาด 9 มม. ไปให้ภรรยาของตัวเองที่อู่ซ่อมรถ แล้วเอาไปซ่อน ทำให้ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำภรรยา ซึ่งอาจจะเข้าข่ายให้การช่วยเหลือกระทำความผิด


และในระหว่างที่มีการคุมตัวผู้ก่อเหตุมาชี้จุดเกิดเหตุ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามว่าอยากขอโทษผู้เสียชีวิตไหม ผู้ก่อเหตุตอบว่า “ขอโทษครับ” จากนั้นก็ได้มีหญิงคนหนึ่ง อ้างตัวเป็นพี่สาวของผู้เสียชีวิต เกิดอารมณ์โมโห ได้ปรี่เข้ามาพร้อมตะโกนถามผู้ก่อเหตุว่า “ยิงน้องตนทำไม ฆ่าเขาทำไม “

นอกจากนี้ยังมีประชาชนอีกหลายคนในพื้นที่ ที่ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องราวกับใคร และเหตุการณ์ครั้งนี้ มันทำกันเกินไป.-420 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว