26 ธ.ค.- ผบช.ภ.2 เผยสอบแล้ว 5 ปาก พยานสำคัญ คลี่ปม “แบงค์ เลสเตอร์” ยังปฏิเสธจ้างดื่มโชว์ พร้อมไล่ไทม์ไลน์ เปิดผลชันสูตรเบื้องต้นหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่งชิ้นเนื้อ สารคัดหลั่ง เลือด และเศษอาหารในกระเพาะตรวจแล็บ หาสาเหตุที่แท้จริง
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) กล่าวถึงกรณี แบงค์ เลสเตอร์ อายุ 27 ปี เสียชีวิตหลังทำคอนเทนต์ดื่มสุราจนหมดสติ ซึ่งได้รับรายงานเรื่องนี้ จาก ผกก.สภ.ทุ่งเบญจา ภ.จว.จันทบุรี ทราบว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (26 ธันวาคม) ตำรวจ สภ.ทุ่งเบญจา รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลสองพี่น้อง ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ทราบชื่อนายธนาคาร หรือ แบงค์ เลสเตอร์ เสียชีวิตเมื่อเวลา 04.30 น. ที่ รพ.สองพี่น้อง
จากการสอบสวนทราบว่าในวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ร้านผลิตภัณฑ์การเกษตรแห่งหนึ่ง ใน ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ได้จัดงานทำบุญเปิดร้านใหม่ และมีกินเลี้ยงโต๊ะจีน โดยมีผู้ร่วมงานจำนวนมาก รวมถึงนายธนาคาร ด้วย โดยผู้ตายมีลักษณะทำคอนเทนต์คลิปวิดีโอดื่มสุราตามงานเลี้ยง จนมีอาการมึนเมาหมดสติ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยแพทย์ รพ.สองพี่น้องลงความเห็นเบื้องต้นหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่งศพต่อไปที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี แพทย์นิติเวช ได้เก็บชิ้นเนื้อ สารคัดหลั่ง และเลือด เพื่อตรวจหาสารพิษ และกล่าวว่ากรณีเสียชีวิตอาจมาจากเหตุสุราเป็นพิษ ตรวจศพเบื้องต้นผลการชันสูตรยังไม่สามารถยืนยันชัดเจนได้ว่า นายธนาคารเสียชีวิตจากการดื่มเหล้าหมดแบนในครั้งเดียวหรือจากสาเหตุอะไร โดยทางแพทย์นิติเวชจะเร่งตรวจสอบผลแล็บหาสาเหตุโดยเร็วที่สุด
ผบช.ภ.2 กล่าวว่า พนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์ไว้ตามคดีชันสูตรพลิกศพ ขณะนี้สอบสวนปากคำพยานไปแล้ว 5 ปาก ทั้งมารดาเจ้าของงาน เพื่อนผู้ตายของนายธนาคาร พยานที่เกิดเหตุ ผู้ถ่ายคลิป รวมถึงผู้ต้องสงสัยว่ามีการว่าจ้างให้ดื่มสุรา ซึ่งจากการสอบสวนปากคำพยานในเบื้องต้น เจ้าของร้าน และพยาน ไม่มีใครยืนยันว่ามีการจ้าง
“คดีนี้ผมได้กำชับให้ สภ.ทุ่งเบญจา สืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานทุกมิติ พยานบุคคล พยานวัตถุ ประสานงานกับแพทย์นิติเวชอย่างใกล้ชิด รอผลชันสูตรเลือด และเศษอาหารในกระเพาะ โดยในขั้นนี้พบว่าเป็นการเสียชีวิตหลังจากเมาหมดสติในงาน ผู้อยู่ในเหตุการณ์ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล เสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยย้ำว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สืบสวนสอบสวนให้ชัดในประเด็นที่อ้างว่ามีการว่าจ้าง หากมีการว่าจ้าง หรือบังคับให้ดื่มสุราปริมาณมากจนถึงแก่ชีวิต ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องร่วมรับผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้หากมีความคืบหน้าที่ชัดเจนจะเปิดเผยให้ทราบต่อไป” พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าว และย้ำว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ อาจมีการเฉลิมฉลอง ดื่มสุรากัน ขอให้ระมัดระวังอย่าดื่มในปริมาณที่มากเกินไป อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ .412.-สำนักข่าวไทย
