ชัยภูมิ 20 ธ.ค. – รอบสัปดาห์นี้มีเรื่องหลากหลายด้าน ESG มาพูดคุย น่าดีใจที่ภาครัฐและเอกชน ให้ความใส่ใจ ดูแลสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล จนทำให้ บจ.ในตลาดหลักทรัพย์ ได้รับการประกาศอยู่ในการคำนวณดัชนีอีเอสจีมากขึ้น ปีนี้มีหุ้นผ่านเกณฑ์ 228 บริษัท สร้างสถิตินิวไฮ โดยมีบริษัทเข้าร่วมรับการประเมินถึง 320 บริษัท
มาดูตัวอย่าง EGCO Group โดยมูลนิธิไทยรักษ์ป่า ส่งมอบ “เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาหัวนาค” อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จ.ชัยภูมิ ระยะทาง 2.66 กิโลเมตร ส่งมอบแก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งเรียนรู้นิเวศวิทยาและธรณีวิทยาถิ่น ที่มีมาตรฐาน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงคุณค่าของป่าและประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาอายุกว่า 125 ล้านปี เส้นทางยังถูกออกแบบให้ครอบคลุมเส้นทางลาดตระเวนและแนวกันไฟป่า หากพื้นที่มีการใช้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว จะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดไฟป่าในอนาคต เอ็กโกก็มีแผนที่จะอบรมและส่งเสริมให้ชุมชนและเยาวชนเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่นนำเที่ยวเส้นทางนี้ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ธรรมชาติในพื้นที่อย่างยั่งยืน
ธ.ก.ส.ส่งเสริมเกษตรยั่งยืน
ด้าน ธ.ก.ส. เดินหน้ายกระดับผลิตภัณฑ์เกษตรสู่สินค้าเกษตรมูลค่าสูง และดึงจุดเด่นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรมาสร้างแบรนด์ท่องเที่ยวชุมชนที่มีเอกลักษณ์ ภายใต้โมเดล BAAC Agro-Tourism โดยคุณฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. ไปพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร ศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตอง ตามพระราชดำริ ที่นี่ส่งเสริมองค์ความรู้ครบวงจร ส่งผลให้ชาวบ้านกินดีอยู่ดีแบบพอเพียง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และก่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ถือเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ธ.ก.ส. อีกด้วย
อาเซียนตั้งศูนย์ประสานงานลดหมอกควันข้ามแดน
และในสัปดาห์นี้ประเทศไทยยังเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของประเทศภาคีต่อข้อตกลงอาเซียน เรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 19 โดยประเทศสมาชิกเตรียมจัดตั้งศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อควบคุมหมอกควันข้ามแดนขึ้นที่อินโดนีเซีย และร่วมแสดงเจตนารมณ์ร่วมมือกันป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า ฝุ่นละออง รวมถึงหมอกควันข้ามแดน ร่วมกัน โดยปี 68 ไทยจะจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรรายสาขา เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการปรับตัวสู่ระดับพื้นที่
ทั้งนี้ รายการเรา…ที่ส่งเสริมเรื่องอีเอสจี โดยเฉพาะด้านตัวอี หรือสิ่งแวดล้อม ล่าสุดข้อมูลระดับโลก จากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ IPCC ระบุว่า อุณหภูมิของโลกได้เพิ่มสูงขึ้นแล้ว 1.3 องศาเซลเซียส และในอีก 5 ปีข้างหน้า มีโอกาสที่จะเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ผลกระทบสำคัญคือ การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล เกิดภัยแล้งรุนแรง ผลผลิตทางการเกษตรลดลง ในส่วนของไทยจะเผชิญกับความเสี่ยงที่รุนแรงและยากต่อการคาดการณ์มากขึ้น เช่น ภาคใต้เกิดฝนตกหนักแบบกระจุกตัว (Rainbomb) เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่ม ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 7 แสนครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย มูลค่าความเสียหายราว 5,000-10,000 ล้านบาท โดยไทยถูกจัดอันดับประเทศที่ได้รับความเสี่ยงจากเหตุการณ์ภูมิอากาศสุดขั้วเป็นอันดับ 9 ของโลก จึงจำเป็นต้องเร่งปรับตัว ให้ความสำคัญ และใส่ใจด้าน ESG เพิ่มมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย