ปอร์โตแปรงซ์ 9 ธ.ค. – เกิดเหตุการณ์สังหารหมู่คนแก่อายุกว่า 60 ปีขึ้นไป ในเฮติ เมื่อหัวหน้าแก๊งอาชญากรเชื่อว่าผู้สูงอายุในพื้นที่ใช้เวทมนต์คาถาทำให้ลูกของเขาล้มป่วย
เครือข่ายปกป้องสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของเฮติเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 110 คน จากการถูกสังหารหมู่ที่ชุมชนแออัดใกล้กับท่าเรือกรุงปอร์โตแปรงซ์ของเฮติ ผู้เสียชีวิตทั้งหมดล้วนเป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ถูกสังหารตามคำสั่งของนายโมเนล มิคาโน เฟลิกซ์ หัวหน้าแก๊งวอร์ฟ เจเรมี (Wharf Jeremie) โดยเมื่อวันศุกร์มีผู้ถูกสังหารอย่างน้อย 60 คน และต่อมาในวันเสาร์มีคนถูกสังหารเพิ่มอีก 50 โดยคนร้ายใช้มีดและมีดมาเชเต้เป็นอาวุธในการสังหาร
สาเหตุของการสังหารมาจากการที่นายเฟลิกซ์ได้รับคำกล่าวอ้างจากนักบวชในลัทธิวูดูคนหนึ่งว่า ลูกของเขาล้มป่วยเพราะถูกคนแก่ในพื้นที่ใช้เวทมนต์คาถาทำร้าย ต่อมาลูกของเขาได้เสียชีวิตลงเมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา สหประชาชาติหรือยูเอ็นประเมินเมื่อเดือนตุลาคมว่า แก๊งของนายเฟลิกซ์มีสมาชิกประมาณ 300 คน เขาถูกสาธารณรัฐโดมินิกันที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านของเฮติห้ามเข้าประเทศเมื่อปี 2565
เหตุการณ์สังหารหมู่ในเฮติเกิดขึ้นบ่อยครั้งท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองที่ไร้ขื่อแป รัฐบาลไร้เสถียรภาพไม่สามารถดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนได้ ชาวบ้านต้องพากันหนีตายออกจากบ้านเรือนซึ่งถูกกลุ่มแก๊งต่างๆ ออกปล้นฆ่าอยู่เป็นประจำรัฐบาลเฮติได้ร้องขอให้ยูเอ็นส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้ามาช่วย แต่ถูกขัดขวางจากจีนและรัสเซียซึ่งเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ.-816(814).-สำนักข่าวไทย