เฮติ

ปอร์โตแปรงซ์ 19 มี.ค.- สถานการณ์ในเฮติยังคงวิกฤติหนัก  ผู้คนล้มตายราวใบไม้ร่วงจากการก่อความรุนแรงของแก๊งอาชญากร ขณะที่ยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง สภาพในกรุงปอร์โตแปรงซ์เมืองหลวงของเฮติยังคงเต็มไปด้วยการก่อความรุนแรงของกลุ่มแก๊งต่าง ๆ ที่พยายามแย่งชิงอำนาจและก่อเหตุปล้นฆ่าประชาชนอย่างต่อเนื่อง  ทำให้ในแต่ละวันมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก รถพยาบาลต้องออกตระเวนไปตามท้องถนนเพื่อเก็บศพของผู้เสียชีวิตหลายรายที่ถูกยิงตายอย่างน่าอนาถ ขณะที่การเมืองเฮติกำลังพบกับทางตันหลังจากที่นายอาเรียล อองรี ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และขณะนี้เจ้าตัวยังคงอยู่ที่เปอร์โตริโกโดยยังไม่มีกำหนดเดินทางกลับประเทศ การลาออกของเขาจะมีผลต่อเมื่อมีการจัดตั้งสภาเพื่อการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง เพื่อทำหน้าที่เฟ้นหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ และเตรียมการสำหรับเลือกตั้งประธานาธิบดีต่อไป  แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการจัดตั้งสภาดังกล่าว นอกจากเผชิญกับเหตุการณ์ความรุนแรงแล้ว ชาวเฮติยังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค เนื่องจากบริษัทขนส่งทางเรือตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางไม่เดินเรือผ่านเฮติ  ทำให้ชาวเฮติจำนวนมากไหลทะลักข้ามพรมแดนเข้าไปในฝั่งโดมินิกัน เพื่อเข้าไปซื้อหาอาหารและข้าวของจำเป็นที่ตลาดพรมแดนและบางส่วนก็นำสินค้าเข้าไปขาย ทำให้ทางการโดมินิกันต้องส่งทหารเข้าประจำการพรมแดนเพิ่มตั้งแต่เมื่อวานนี้และมีการตั้งด่านตรวจเข้มป้องกันการลักลอบเข้าเมือง  สถานการณ์ความรุนแรงยังทำให้สหประชาชาติ รวมทั้งสถานทูตสหรัฐและแคนาดาตัดสินใจถอนเจ้าหน้าที่ออกจากเฮติไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ปอร์โตแปรงซ์ 17 มี.ค.- ยูนิเซฟแจ้งว่า คอนเทนเนอร์บรรทุกสิ่งของช่วยเหลือที่จำเป็นต่อความอยู่รอดของมารดาและเด็กถูกปล้นที่ท่าเรือแห่งหนึ่งในเฮติ ประเทศที่แก๊งอาชญากรแผ่ขยายอิทธิพลในกรุงปอร์โตแปรงซ์ที่เป็นเมืองหลวง องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติหรือยูนิเซฟ (UNICEF) แจ้งว่า คอนเทนเนอร์ 1 ตู้จากทั้งหมด 17 ตู้ ถูกปล้นชิงที่ท่าเรือปอร์โตแปรงซ์ ท่าเรือแห่งนี้มีคอนเทนเนอร์ด้านมนุษยธรรมทั้งหมด 260 ตู้ ถูกควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธ สิ่งของในคอนเทนเนอร์ที่ถูกปล้นชิงประกอบด้วยเครื่องกู้ชีพและอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นต่อความอยู่รอดของมารดา ทารกแรกเกิด และเด็ก ผู้แทนยูนิเซฟประจำเฮติเรียกร้องให้ยุติการปล้นชิงสิ่งเหล่านี้ เพราะมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเด็กที่กำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก ยูนิเซฟเตือนด้วยว่า สตรีในกรุงปอร์โตแปรงซ์ราว 3 ใน 4 เข้าไม่ถึงการดูแลด้านสาธารณสุขและโภชนาการขั้นพื้นฐาน ขณะที่โรงพยาบาลหลายแห่งต้องปิดการให้บริการเพื่อความปลอดภัย ขณะนี้เหลือโรงพยาบาลที่มีบริการผ่าตัดเปิดทำการเพียง 2 แห่งเท่านั้น ส่วนโรงพยาบาลทั่วประเทศขาดแคลนไฟฟ้า เชื้อเพลิง และเวชภัณฑ์จนไม่สามารถทำการมากถึง 6 ใน 10 แห่ง.-814.-สำนักข่าวไทย

ปอร์โตแปรงซ์ 13 มี.ค.- เฮติกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนทางการเมือง หลังจากนายกรัฐมนตรีประกาศลาออก แต่ยังไม่มีแผนการที่ชัดเจนว่าจะทำให้การเมืองกลับมามีเสถียรภาพได้อย่างไร แม้ว่านายอาเรียล อองรี นายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลของเฮติประกาศเมื่อวานนี้เรื่องลาออกจากตำแหน่ง โดยรับปากว่าจะลาออกโดยเร็วที่สุดทันทีที่มีการตั้งสภาการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองและได้ตัวผู้นำเฉพาะกาลคนใหม่ แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ขณะที่สถานการณ์ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ยังคงเต็มไปด้วยความรุนแรง สนามบินและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญตกอยู่ในการยึดครองกลุ่มอาชญากร ส่วนแผนการจัดส่งกองกำลังนานาชาติเข้ามาช่วยตำรวจเฮติในการต่อสู้กับแก๊งอาชญากรและดูแลความสงบเรียบร้อยก็ยังไม่มีการกำหนดวันเวลาที่จะเข้ามาประจำการ อย่างไรก็ตาม การประกาศลาออกของนายอองรีก็สร้างความยินดีให้กับชาวเฮติจำนวนไม่น้อย ซึ่งบางส่วนออกมาฉลองกันตามท้องถนน และบางคนคาดหวังว่า หลังจากนี้ไปสถานการณ์ในเฮติน่าจะดีขึ้น แผนการจัดตั้งสภาเปลี่ยนผ่านทางการเมืองของเฮติได้รับการประกาศ หลังจากที่มีการประชุมระดับสูงของผู้นำกลุ่มประเทศแคริบเบียนที่จาเมกาเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น สภานี้จะประกอบด้วยตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆ ของเฮติ มีหน้าที่แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาล และจัดตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งขึ้นมาดูแลการเลือกตั้ง ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเฮตินับจากปี 2559.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ปอร์โตแปรงซ์ 8 มี.ค.- สหประชาชาติหรือยูเอ็นเตือนว่า ระบบสาธารณสุขในเฮติใกล้พังทลาย เพราะขาดแคลนทั้งบุคลากร อุปกรณ์ ยา และเลือดในการรักษาผู้บาดเจ็บจากการถูกแก๊งอาชญากรยิง ขณะที่รัฐบาลเฮติจะขยายสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือน โครงการอาหารโลกของยูเอ็นแจ้งว่า ขบวนรถบรรทุกอุปกรณ์จำเป็น เวชภัณฑ์ และอาหารจำนวนสิบกว่าคันตกค้างอยู่ที่ท่าเรือของกรุงปอร์โตแปรงซ์ เนื่องจากทางโครงการได้ระงับการขนส่งสิ่งของทางทะเลเพราะมีความไม่ปลอดภัย รัฐบาลเฮติประกาศในรัฐกิจจานุเบกษาว่า จะขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในจังหวัดเวสต์ (Ouest) ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงปอร์โตแปรงซ์ไปจนถึงวันที่ 3 เมษายน และขยายการห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวตอนกลางคืนไปจนถึงวันที่ 11 มีนาคม เพื่อฟื้นฟูความเป็นระเบียบเรียบร้อยและดำเนินมาตรการที่เหมาะสมในการกลับเข้าไปควบคุมสถานการณ์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินห้ามการประท้วงในที่สาธารณะอย่างเด็ดขาด และอนุญาตให้กองกำลังความมั่นคงใช้ทุกวิธีที่ถูกกฎหมายในการบังคับใช้คำสั่งเคอร์ฟิวและจับกุมผู้ฝ่าฝืน ก่อนหน้านี้รัฐบาลเฮติได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 3 มีนาคม เนื่องจากแก๊งอาชญากรก่อความรุนแรงมากขึ้น มีการปล่อยนักโทษหนีจากเรือนจำ ประชาชนจำนวนมากต้องกลายเป็นคนพลัดถิ่น เป็นช่วงที่นายกรัฐมนตรีอาเรียล อองรีของเฮติเดินทางไปเคนยาเพื่อขอให้เป็นแกนนำตั้งกองกำลังนานาชาติปราบปรามแก๊งอาชญากรในเฮติ ขณะนี้นายกรัฐมนตรีอองรียังคงอยู่ในเปอร์โตริโกมาตั้งแต่วันอังคาร และได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดี นายบลิงเคนพูดเรื่องเฮติจำเป็นต้องเร่งมีรัฐบาลที่เปิดกว้างและครอบคลุมมากขึ้น รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า ดูเหมือนว่านายกรัฐมนตรีเฮติจะไม่สามารถหรือไม่เต็มใจกลับเมืองหลวงที่กำลังเต็มไปด้วยการยิงกันตามจุดขนส่งหลัก รวมถึงท่าอากาศยานนานาชาติ.-814.-สำนักข่าวไทย

ปอร์โตแปรงซ์ 24 ก.พ.- ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยมิชิแกนในสหรัฐพบว่า ข้าวที่สหรัฐส่งออกไปเฮติ ซึ่งครองสัดส่วนใหญ่ของข้าวที่บริโภคในเฮติ ปนเปื้อนสารหนูและแคดเมียมในระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เฮติ ซึ่งเป็นประเทศยากจนที่สุดในซีกโลกตะวันตกเป็น 1 ในผู้ซื้อข้าวรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เช่นเดียวกับเม็กซิโกและญี่ปุ่น เนื่องจากข้าวนำเข้ามีราคาถูกกว่าข้าวที่ปลูกในประเทศ ผลการศึกษาพบว่า ข้าวนำเข้าจากสหรัฐมีความเข้มข้นโดยเฉลี่ยของสารหนูและแคดเมียมเกือบ 2 เท่าของข้าวปลูกในประเทศ บางตัวอย่างมีความเข้มข้นสูงกว่ามาตรฐานสากล และตัวอย่างเกือบทั้งหมดสูงเกินจากที่สำนักงานอาหารและยาสหรัฐแนะนำให้เด็กบริโภค ผลการศึกษาพบด้วยว่า สหรัฐมีมาตรการจำกัดความเข้มข้นของโลหะหนักทั้ง 2 ชนิดนี้ค่อนข้างหละหลวม ทั้งที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งและโรคหัวใจ สามารถปนเปื้อนอาหารและน้ำ โดยที่ข้าวเป็นอาหารที่มีแนวโน้มดูดซึมได้สูง เฮตินำเข้าข้าวเกือบร้อยละ 90 และเกือบทั้งหมดมาจากสหรัฐ อันเป็นผลจากการเก็บภาษีนำเข้าต่ำและข้อตกลงระยะยาวที่ลงนามกับสหรัฐช่วงเฮติเกิดความโกลาหลทางการเมืองปลายคริสต์ทศวรรษ 1980 ถึงคริสต์ทศวรรษ 1990 บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐที่ช่วยผลักดันเรื่องการอุดหนุนข้าวส่งออกไปเฮติยอมรับในภายหลังว่า เป็นความผิดพลาดเพราะทำลายศักยภาพการปลูกข้าวในเฮติ.-814.-สำนักข่าวไทย

ปอร์โตแปรงซ์ 13 ก.พ.- แก๊งอาชญากรในเฮติยังคงเหิมเกริมอย่างหนัก ชาวบ้านต้องพากันละทิ้งบ้านเรือนเพื่อหนีเอาชีวิตรอด สถานการณ์ความรุนแรงจากแก๊งอาชญากรในเฮติยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ชาวบ้านพากันหลบหนีออกจากบ้านเรือนไปอาศัยตามที่ปลอดภัย สถานีตำรวจแห่งหนึ่งในกรุงปอร์โตแปรงซ์มีชาวบ้านมาอาศัยหลบภัยอยู่ด้านนอกเป็นจำนวนมาก ขณะที่อีกหลายคนทยอยเดินเท้ามาตามถนนสายต่างๆ พร้อมด้วยสัมภาระเท่าที่จะนำติดตัวมาได้ ชาวบ้านเผยว่า แก๊งอาชญากรบุกเข้ามาในชุมชนและใช้ปืนกราดยิงผู้คนแบบไม่เลือกหน้า ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กๆ  ขณะที่บ้านเรือนถูกปล้นสะดมจนไม่เหลืออะไร ชุมชนหลายแห่งถูกกลุ่มอาชญกรบุกยึดเอาไว้ทั้งหมด ชาวบ้านบางคนไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อข้าวซื้อน้ำ  สมาชิกในครอบครัวถูกยิงได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล บางคนถูกลักพาตัวไปยังไม่ทราบชะตากรรม สถานการณ์ในกรุงปอร์โตแปรงซ์เวลานี้ถือว่ากำลังวิกฤติอย่างหนัก พื้นที่ส่วนใหญ่ในเมืองหลวงตกอยู่ในมือในแก๊งอาชญกรโดยที่ตำรวจแทบจะทำอะไรไม่ได้ ประชาชนหลายแสนคนต้องทิ้งบ้านเรือนเพื่อหนีเอาตัวรอดท่ามกลางวิกฤติด้านมนุษยธรรมที่ทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งหมดเป็นผลพวงมาจากความไร้เสถียรภาพทางการเมือง.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ปอร์โตแปรงซ์ 19 ม.ค.- ผู้คนในกรุงปอร์โตแปรงซ์ของเฮติพากันหนีตายจากแก๊งอาชญากรรมไปอาศัยอยู่ตามริมถนน ขณะที่เมืองหลวงอยู่ในสภาพเหมือนถูกล็อกดาวน์ กรุงปอร์โตแปรงซ์ของเฮติอยู่ในสภาพที่ไร้ขื่อแป  เต็มไปด้วยการก่อความรุนแรงของกลุ่มแก๊งอาชญากรรม ผู้คนจำนวนมากถูกกลุ่มอาชญากรรมบุกเข้ายึดบ้านเรือน ทำให้ต้องพากันหนีตายไปอาศัยหลับนอนอยู่ตามริมถนนกันอย่างยากลำบาก  บางคนถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บ  โดยเฉพาะในย่านซิโนลา ถนนหนทางถูกปิดจากการเผายางรถยนต์และนำก้อนหินมาวางขวางเอาไว้ เหตุการณ์รุนแรงนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายวัน โดยที่ยังไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง สถานการณ์รุนแรงในเฮติทวีความตึงเครียดมากขึ้นเนื่องจากกลุ่มแก๊งต่างๆ พยายามช่วงชิงอำนาจกัน และพยายามกดดันให้นายแอเรียล อองรี ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลก่อนที่จะครบกำหนดในวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ตามที่ระบุเอาไว้ในข้อตกลงทางการเมือง  ขณะที่มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 20 คนจากเหตุรุนแรงในย่านซิโนลานับตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่การเมืองของเฮติยังไม่มีความชัดเจนและไร้เสถียรภาพอย่างหนัก โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุการณ์สังหารประธานาธิบดีโจเวเนล โมอิส ที่ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 ซึ่งนับแต่นั้นมาก็มีกลุ่มติดอาวุธเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากจนไม่มีใครสามารถควบคุมได้  และจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการกำหนดวันเลือกตั้งประธานาธิบดี.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ปอร์โตแปรงซ์ 16 พ.ย.- โรงพยาบาลในชุมชนแออัดใหญ่ที่สุดของเฮติ อพยพคนออกทั้งหมดแล้วเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หลังจากแก๊งอันธพาลปะทะกันนอกโรงพยาบาลมาตั้งแต่วันจันทร์ โจเซ อูลีส ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการศูนย์โรงพยาบาลฟอนเทน ย่านซิเต โซเลย ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ไม่มีการจับคนไข้เป็นตัวประกันตามที่มีรายงานข่าว แต่เป็นการปะทะกันระหว่างแก๊งอันธพาลที่เกิดขึ้นรอบโรงพยาบาล บ้านเรือนในละแวกใกล้เคียงถูกเผาหมด เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต้องหาที่หลบภัย และต้องแจ้งให้ตำรวจมาช่วยอพยพคนไข้ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายตัวเอง ประกอบด้วยผู้ใหญ่ 70 คน เด็ก 40 คน รวมทารกแรกเกิด ขณะที่คนไข้ส่วนใหญ่สามารถหลบออกจากโรงพยาบาลได้เอง จนถึงขณะนี้สามารถอพยพทุกคนไปยังที่ปลอดภัยแล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด โรงพยาบาลแห่งนี้อยู่ในย่านซิเต โซเลย ที่เป็นชุมชนแออัดใหญ่ที่สุดในเฮติ และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งซีกโลกเหนือ มีประชากรอาศัยอยู่ 200,000-400,000 คน ส่วนใหญ่มีความเป็นอยู่ยากจนข้นแค้น แก๊งอันธพาลใช้อาวุธปะทะกันตั้งแต่วันจันทร์ หลังจากแกนนำคนหนึ่งของแก๊งถูกสังหาร.-สำนักข่าวไทย

สหประชาชาติ 3 ต.ค.- คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) อนุมัติให้ส่งกองกำลังสนับสนุนความมั่นคงในเฮติที่มีเคนยาเป็นแกนนำแล้ว หลังจากเฮติร้องขอเป็นครั้งแรกเป็น 1 ปีก่อน ที่ประชุมยูเอ็นเอสซีผ่านความเห็นชอบเมื่อวันจันทร์ตามเวลานิวยอร์ก ด้วยคะแนน 13 เสียง งดออกเสียง 2 เสียงคือรัสเซียและจีน ต่อญัตติส่งกองกำลังสนับสนุนความมั่นคงนานาชาติที่ไม่ใช่กองกำลังของยูเอ็นไปยังเฮติ โดยมีเคนยาเป็นประเทศนำการประสานงานกับรัฐบาลเฮติ กองกำลังนี้กำหนดปฏิบัติภารกิจ 1 ปี โดยจะมีการพิจารณาทบทวนหลังจากปฏิบัติภารกิจไปแล้ว 9 เดือน มีหน้าที่สนับสนุนการปฏิบัติงานของตำรวจแห่งชาติเฮติ และสร้างบรรยากาศให้มีการจัดการเลือกตั้งที่ว่างเว้นมาตั้งแต่ปี 2559  นายกรัฐมนตรีแอเรียล อองรี ของเฮติและนายอันโตนีโอ กูแตร์เรส เลขาธิการยูเอ็น ร่วมกันเรียกร้องมาตั้งแต่ปลายปี 2565 ให้นานาชาติส่งกองกำลังไปสนับสนุนตำรวจเฮติที่ด้อยประสบการณ์ แต่ประชาคมโลกส่วนใหญ่เบื่อหน่ายเพราะการแทรกแซงหลายครั้งก่อนหน้านี้ล้มเหลว จนกระทั่งเคนยาอาสาเมื่อเดือนกรกฎาคมปีนี้ว่า จะเป็นแกนนำกองกำลังและจะส่งกำลังคนไป 1,000 คน เลขาธิการยูเอ็นกล่าวว่า สถานการณ์ความมั่นคงในเฮติมีแต่เลวร้ายลง แก๊งอาชญากรรมมีทั้งจำนวนและอาวุธที่มากกว่าตำรวจ มีเหตุฆาตกรรมเกือบ 2,800 ครั้งระหว่างเดือนตุลาคม 2565 ถึงเดือนมิถุนายน 2566 โดยเป็นเยาวชนตกเป็นเหยื่อถึง 80 ราย ยูเอ็นเคยส่งกองกำลังรักษาสันติภาพไปประจำการในเฮติตั้งแต่ปี 2547-2560 แต่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดอหิวาตกโรคระบาดในเฮติ […]

ยูเอ็น แถลงสถานการณ์เหตุความไม่สงบในเฮติ ระหว่าง ม.ค.-15 ส.ค.ปีนี้ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2,400 คน พร้อมเรียกร้องประชาคมโลกส่งกองกำลังนานาชาติ  เข้าช่วยควบคุมสถานการณ์

สหประชาชาติ 17 ส.ค.- เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ย้ำข้อเรียกร้องให้ส่งกองกำลังนานาชาติที่ไม่ใช่กองกำลังยูเอ็นไปเฮติ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ความมั่นคงในเฮติ นายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นส่งจดหมายเป็นการส่วนตัวถึงคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) เมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า เขายังคงขอให้ชาติสมาชิกส่งกองกำลังนานาชาติที่ไม่ใช่กองกำลังยูเอ็นไปยังเฮติ ประกอบด้วยหน่วยปฏิบัติการพิเศษของตำรวจและหน่วยสนับสนุนของกองทัพ เนื่องจากการแก้ไขสถานการณ์ความมั่นคงในเฮติจำเป็นต้องใช้มาตรการบังคับใช้กฎหมายแบบบีบบังคับ ซึ่งรวมถึงการใช้ปฏิบัติการตำรวจแบบมุ่งเป้ากับแก๊งที่มีอาวุธครบมือ เลขาธิการยูเอ็นแสดงความสนับสนุนเรื่องที่เคนยาประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า ยินดีเป็นแกนนำการแทรกแซงด้วยกองกำลังตำรวจนานาชาติเพื่อให้การฝึกอบรมและช่วยเหลือตำรวจเฮติ โดยที่เคนยาพร้อมส่งตำรวจ 1,000 นายไปช่วยเหลือ เขาทราบมาว่า ข้อเสนอของเคนยาได้รับการสนับสนุนจากเครือรัฐบาฮามาสและจาเมกา ขณะที่แอนทีกาและบาร์บิวดากำลังพิจารณาเข้าร่วมด้วย ด้านโฆษกเลขาธิการยูเอ็นแสดงความหวังว่า ประเทศอื่น ๆ จะเข้าร่วมด้วยเพื่อให้ยูเอ็นเอสซีให้ความเห็นชอบตามข้อเสนอแนะของเลขาธิการ ทั้งนี้ภารกิจการส่งกองกำลังไปเฮติจะต้องได้รับความเห็นชอบจากยูเอ็นเอสซี แม้ว่าไม่ได้ไปภายใต้การนำของยูเอ็นก็ตาม ยูเอ็นเคยปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพในเฮติระหว่างปี 2547-2560 แต่ไม่ได้รับการต้อนรับเท่าใดนัก หลังจากบุคลากรของยูเอ็นเป็นต้นตอของอหิวาตกโรคระบาดในเฮติที่คร่าชีวิตคนไปเป็นจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย