8 ธ.ค.- จับได้แล้ว 4 ผู้ต้องหา แทงหนุ่มวัย 19 หน้าปากซอยเพชรเกษม 55/2 เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา หลังขอดู หัวเข็มขัด มือแทงระบุไม่ใช่การลงมือผิดคนแต่ถูกผู้ตายกระโดดถีบจึงต้องป้องกันตัว พร้อมขอโทษ สำนึกผิดอ้างไม่ได้ตั้งใจ
เวลา 13.00 น. หลังจากตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.เพชรเกษม ร่วมกับตำรวจฝ่ายสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 9 ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพวงจรปิดตลอดเส้นทางเพชรเกษมต่อเนื่องบางแค ซึ่งเป็นเส้นทางที่คนร้ายลงมือก่อเหตุแทงนายรัฐภูมิ อายุ 19 ปีเสียชีวิตเมื่อ คืนที่ผ่านมา จนทราบตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คน ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงลงพื้นที่ไปยังที่พักอาศัยของ 1 ในผู้ต้องสงสัยย่านบางแค เมื่อไปถึงพบผู้ต้องสงสัย 3 คน อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ทั้ง 3 คน รับสารภาพว่าอยู่ร่วมในเหตุการณ์และร่วมกันทำร้ายคนตายจริง แต่ไม่ใช่มือแทง หลังเกิดเหตุทั้ง 3 คนได้เดินทางกลับเข้าที่พักเล่าเหตุการณ์ให้พ่อฟัง ซึ่งพ่อกำลังจะพาไปมอบตัว แต่ตำรวจมาเสียก่อน
ส่วนมือแทง หลังก่อเหตุหลบหนีกลับบ้านเกิดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตำรวจจึงควบคุมตัวทั้ง 3 คนมาสอบปากคำที่สนเพชรเกษม พร้อมจัดชุดฝ่ายสืบสวนออกไล่ล่าที่บ้านเกิดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อตำรวจฝ่ายสืบสวนสนเพชรเกษมไปถึง พบนายตี๋ นามสมมุติ อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ตำรวจจึงสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น นายตี๋รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือแทงนายรัฐภูมิ ผู้ตายจริง ขณะที่มารดา ระบุกับตำรวจว่าลูกชายกลับมาบ้านพร้อมกับก้มลงกราบเท้า ขอโทษตน พร้อมเล่าให้ฟังว่าได้แทงคนตาย บริเวณปากซอยเพชรเกษม 55 /2 ตนจึงแนะนำให้ลูกเข้ามอบตัว เพื่อโทษหนักจะได้กลายเป็นเบา
ต่อมาเวลา 14.00 น. นายตี๋ ถูกตำรวจฝ่ายสืบสวนควบคุมตัวเข้ามา สน.เพชรเกษม โดยระหว่างถูกควบคุมตัวขึ้นห้องสอบสวนชั้น 2 นายตี๋ได้ใช้เสื้อคลุมศีรษะปิดบังใบหน้า ก่อนกล่าวขอโทษฝั่งผู้เสียชีวิตผ่านสื่อว่าไม่ได้ตั้งใจ พร้อมปฏิเสธว่าการก่อเหตุ ไม่ผิดตัว แต่ผู้ตายกระโดดถีบตนก่อน จึงต้องป้องกันตัว ส่วนเพื่อนผู้ร่วมก่อเหตุทั้ง 3 คน ตำรวจสอบเครียดตั้งแต่เวลา 13.00 น. จนถึงขณะนี้เป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ก็ยังไม่แล้วเสร็จ
สำหรับบรรยากาศที่ สน.เพชรเกษม หลังจับกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คนถูกจับได้แล้ว กลุ่มเพื่อนผู้ตายประมาณ 10 คน ได้เดินทางเข้ามาที่ สน.เพชรเกษม ด้วยความโกรธแค้น พร้อมระบุ ต้องการมาเห็นหน้ามือแทงและผู้กระทำผิดทั้งหมด ว่าทำเพื่ออะไร ขณะที่ญาติฝั่งผู้ต้องหาก็เดินทางมาเช่นกัน แต่ทุกคนระบุไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อก่อเหตุไปแล้วก็ต้องรับสภาพในสิ่งที่ตัวเองกระทำ 412.-สำนักข่าวไทย