นนทบุรี 13 พ.ย. – แม่เด็ก 14 ร้องขอความเป็นธรรม ลูกถูกโจ๋นับสิบใช้ปืนขู่จ่อปากกระทืบสลบ ผ่านมา 1 เดือน คดีไม่มีความคืบหน้า แถมคู่กรณียังท้าทาย ไม่รู้สึกผิด
เหตุเกิดวันที่ 23 ต.ค. บริเวณหน้าปากซอยตลาดน้ำบางคูลัด อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ขณะที่นายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และ ด.ช.บี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นชาย ขับขี่รถจักรยานยนต์มานับ 10 คัน เป็นกลุ่มวัยรุ่น 13 คน พร้อมอาวุธครบมือทั้งมีดขอยาว และอาวุธปืน ก่อนจอดรถจักรยานยนต์แล้ววิ่งไล่ฟัน จนนายเอ วิ่งหลบหนีเอาตัวรอดในร้านสะดวกซื้อ ส่วน ด.ช.บี ก็วิ่งหนีเช่นกัน แต่พลาดท่าล้มถูกกลุ่มวัยรุ่นกระทืบซ้ำ จนสลบไป
กรณีดังกล่าว ผู้ปกครองของนายเอ และ ด.ช.บี ได้เข้าแจ้งความวันที่ 25 ต.ค. ผ่านมาแล้ว 1 เดือน แต่คดีไม่มีความคืบหน้า จึงเข้าร้องเรียนกับนายปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ ผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” เพื่อขอให้ช่วยเหลือ ซึ่งทางกลุ่มผู้ก่อเหตุได้มีการโพสต์ข้อความเยาะเย้ยท้าทายฝั่งคนเจ็บ โดยไม่รู้สึกผิด
ทีมข่าวไปสอบถาม นายซี (นามสมมติ) นักเรียนชาย อายุ 16 ปี ยอมรับว่าเมื่อวันที่ 23 ต.ค. ตนและเพื่อนๆ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปเที่ยวกันแล้วผ่านไปเจอฝั่งคู่กรณีพอดี ซึ่งจริงๆ แล้วตัวคู่กรณีของตน คือ นายซัน เพื่อนสนิทของผู้บาดเจ็บ วันเกิดเหตุตนขี่รถ จยย. ผ่านนายเอไปแล้ว และนายเอ เป็นคนตะโกนด่าพวกตนก่อน เพื่อนที่ซ้อนท้ายมาด้วย ก็ลงจากรถแล้วไปชกต่อยนายเอ และ ด.ช.บี ซึ่งตนยอมรับว่าทางฝั่งเพื่อนของตนนั้นมีมีดยาวอย่างที่ปรากฏในคลิป แต่ไม่มีปืน ส่วนคนที่มีปืน คือ ด.ช.บี ที่บอกกับนักข่าวว่าถูกกระทืบจนสลบ และปืนของ ด.ช.บี ก็ตกอยู่บริเวณใกล้จุดเกิดเหตุด้วย ยอมรับว่าตนได้ลงไปชกต่อย ด.ช.บี เพราะทราบข้อมูลว่า ด.ช.บี แจ้งว่าจะรับแทนคู่อริของตนเอง
นายซี ยังบอกอีกว่า เหตุผลที่ระงับอารมณ์ไม่ได้จนก่อเหตุ เป็นเพราะว่าตนเคยถูกนายซัน ให้พรรคพวกมารุมทำร้ายในโรงเรียนหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ทางโรงเรียนก็รู้ดี โดยเหตุผลที่ถูกนายซันพาพวกมารุมทำร้าย เพราะตนไม่ยอมเข้าระบบหรือที่เรียกว่า “ซูฮก” นายซัน เพราะนายซัน เป็นเด็กพื้นที่ตลาดบางคูลัด ส่วนตนไม่ใช่เด็กย่านที่เกิดเหตุ จึงมักจะถูกกลั่นแกล้ง และเก็บเรื่องนี้มาโดยตลอด จนกระทั่งได้มีการท้าทายกันในโซเชียลมีเดีย และในที่สุดก็เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แต่เท่าที่ทราบจากทีมข่าวว่าทางฝั่งโน้นพร้อมที่จะจบเรื่องราว ตนก็ยินยอมที่จะจบเรื่องนี้
ล่าสุด ผู้ปกครองพาเยาวชนที่ก่อเหตุเข้าพบตำรวจแล้ว ส่วนทางฝั่งผู้เสียหาย ก็มาพร้อมครอบครัว มาเจรจาไกล่เกลี่ย โดยทั้งสองฝ่ายพูดเรื่องที่ค้างคาใจกันต่อหน้า ผกก.สภ.บางแม่นาง ยอมรับว่าตนเองเป็นตัวต้นเรื่อง บอกว่าที่ก่อเหตุ เพราะทำกับตนไว้เยอะ นายเอ ก็บอกว่าในฐานะที่ตนเองเป็นพี่ใหญ่สุดก็คิดว่าควรจบเรื่องนี้ ซึ่งผู้ปกครองทั้งสองฝ่าย ก็พร้อมใจที่จะดูแลลูกหลานของตนเองไม่ให้ไปก่อเหตุอีก และยอมรับว่าผิดด้วยกันทั้งสองฝ่าย จากนั้นได้ให้ทั้งสองฝ่ายจับมือและโอบกอดกัน เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันอีก
ขณะที่ พ.ต.อ.ธรรศกร ก้อนทอง ผกก.สภ.บางแม่นาง กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นทราบข้อมูลว่าทางฝั่งที่มาก่อเหตุ มีทั้งอาวุธมีดและอาวุธปืน ซึ่งตรงนี้จะต้องไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งว่าเป็นของผู้ใด และต้องตรวจสอบว่ามีผู้ใหญ่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวด้วยหรือไม่ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาสอบปากคำทั้งสองฝ่ายและแจ้งข้อกล่าวหาตามหลักฐาน .-สำนักข่าวไทย