15 ต.ค. – วันนี้จำเลยทั้ง 7 คน ในคดีโศกนาฏกรรมตากใบ ไม่ได้เดินทางมาศาลเพื่อเข้าสอบปากคำครั้งสุดท้าย ทำให้ศาลจังหวัดนราธิวาสมีคำวินิจฉัยเลื่อนสอบปากคำอีกครั้ง แม้คดีจะขาดอายุความในอีก 10 วันข้างหน้า
ผู้เสียหายและครอบครัว รวมถึงตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ จ.นราธิวาส กว่าร้อยชีวิต ซึ่งเดินทางมาเฝ้ารอการปรากฏตัวของจำเลยในคดีโศกนาฏกรรมตากใบที่ศาลจังหวัดนราธิวาส ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ ต้องทยอยเดินทางกลับบ้านด้วยความรู้สึกผิดหวัง
หลังที่สุดแล้วจำเลยในคดีนี้ทั้ง 7 คน ที่มีนัดมาให้ปากคำแก่ศาลเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนคดีจะหมดอายุความในอีก 10 วันข้างหน้านี้ ไม่ได้มาตามนัด
ส่งผลให้ในเวลา 11.00 น. ศาลจังหวัดนราธิวาสมีคำวินิจฉัยให้เลื่อนสอบคำให้การออกไปอีกครั้ง เป็นครั้งที่ 3 ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ ซึ่งนับเป็นการวินิจฉัยให้สอบปากคำเพิ่ม ทั้งที่คดีนี้จะขาดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ก็ตาม พร้อมกันนี้ยังคงคำสั่งหากเจ้าหน้าที่พบจำเลยที่ใดสามารถจับกุมจำเลยทั้ง 7 คนได้ตามหมายจับในทันที
นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ระบุว่าการที่จำเลยทั้ง 7 คน เบี้ยวนัดไม่มาให้ปากคำแก่ศาล สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวและความไม่เท่าเทียมกันในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งนับจากวันนี้ไปหากรัฐบาลชุดนี้ปล่อยให้คดีตากใบขาดอายุความ โดยที่ไม่สามารถดำเนินการจับกุมจำเลยทั้ง 7 คนมาดำเนินคดีได้ ไม่เพียงจะส่งผลต่อการแก้ปัญหาสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ยังจะส่งผลกระทบด้านความเชื่อมั่นของรัฐบาลและความเชื่อมั่นด้านความมั่นคงในพื้นที่อย่างแน่นอน
ด้าน นายมูฮำมะซาวาวี อุเซ็ง น้องชายผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ตากใบ บอกว่าแม้วันนี้ตัวเขาและครอบครัวผู้เสียหายที่เดินทางมาเฝ้ารอคอยการปรากฏตัวของจำเลยในคดีตากใบจะไม่ได้คาดหวังเต็มร้อยว่าจำเลยทั้ง 7 คน จะเดินทางมาปรากฏตัว แต่ใจลึกๆ ยังเชื่อมั่นว่าตัวเขาเองและครอบครัวผู้เสียหายจะได้รับความเป็นธรรมในคดีที่เฝ้ารอมาเกือบ 20 ปี
คดีโศกนาฏกรรมตากใบ เป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกับความมั่นคงของรัฐ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ ตั้งแต่ระดับอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจ เข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนหลายคน ทำให้คดีนี้อยู่ในความสนใจของสังคมเป็นวงกว้าง ว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมและดำเนินคดีกับจำเลยที่มีตำแหน่งระดับสูงเหล่านี้ได้หรือไม่
ในขณะที่ชาวบ้านที่ตกเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ก็เฝ้ารอคอยการพิจารณาคดีอย่างจดจ่อ ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่า 10 วันนับจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมจำเลยที่หลบหนีรายใดมาดำเนินคดีได้หรือไม่ และหากสิ้นสุดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคมแล้ว การเริ่มต้นสอบปากคำในวันที่ 28 ตุลาคม จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร.-สำนักข่าวไทย