สตูล 24 ต.ค.- ประธานกลุ่มบ้านนาแคเมืองสตูลเปิดใจชีวิตเกือบพัง ตั้งกลุ่มเกษตรไร้ทิศทาง เพียงหวังกำไร สุดท้ายด้วยบุญพระบารมีจากโครงการพระราชดำริ ได้เข้าใจถ่องแท้ถึงหลัก “พอเพียง” ทุกคนในหมู่บ้านรวมกลุ่มสร้างอาชีพรายได้อย่างเป็นสุขและยั่งยืน
นายสมหมาย บรรณา อายุ 57 ปี ประธานกลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงบ้านนาแค หมู่ 5 เทศบาลตำบลคลองขุด อ.เมือง จ.สตูล เล่าถึงเรื่องราวของชีวิตที่ย่ำแย่ สุดท้ายดีขึ้นได้จากแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงว่า ก่อนนั้นมีทุนอยู่จำนวนหนึ่งจึงคิดที่จะทำกลุ่มการเกษตร และนำชาวบ้านที่ว่างงานมาทำงานเป็นกลุ่ม โดยยังไม่เข้าใจกับคำว่าพอเพียง จึงทำไปอย่างไร้ทิศทาง คิดแต่กำไรอย่างเดียว จนเกิดภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ พืชผักที่ปลูก สัตว์ที่เลี้ยงไว้ไม่ถูกต้องตามกระบวนการเกิดปัญหาการขาดทุน รายได้หายจนเกือบเป็นหนี้ ขณะนั้นไม่รู้ทำอย่างไรว่าจะเลิกหรือทำต่อ กระทั่งวันหนึ่งนั่งดูโทรทัศน์มีรายการพิเศษเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทำให้เกิดความฉุกคิดอีกครั้ง หันมาทำความเข้าใจให้ถ่องแท้กับคำว่า “พอเพียง”
นายสมหมาย เล่าว่า สุดท้ายก็รู้ว่าการใช้ชีวิตแบบพอเพียงไม่ต้องลงทุนมากมาย แค่มีพื้นที่ดินว่างเปล่าหรือที่ดินไม่ได้ทำอะไรนำปรับมาใช้ประโยชน์ จึงไปศึกษาในโครงพระราชดำริพร้อมปรึกษากองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5 จังหวัดสตูล ทางทหารได้เข้ามาอบรมชาวบ้านในกลุ่มในโครงการพัฒนาศักยภาพศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวชายแดน ไทย – มาเลเซีย เกี่ยวกับการใช้พื้นที่อย่างพอเพียง และทำมาหากินที่ส่งเสริมอาชีพในกลุ่มได้โดยไม่เดือดร้อนเรื่องการขาดทุน
“ทหารมาสอนการเรียนรู้ของโครงการในหลวง และก็ส่งทหารช่างมาช่วยกันปรับพื้นที่ 5 ไร่ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจพอเพียง ในที่สุดก็ได้เลี้ยงนกกระทา เลี้ยงปลาดุก บ่อปลานิล เลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงเป็ด และจัดสัดส่วนปลูกผัก ทำโรงปุ๋ย จนปัจจุบันนี้ประสบความสำเร็จอย่างดี
นายสมหมาย เล่าด้วยความตื้นตันใจว่า จากที่เคยผิดหวังในการตั้งกลุ่มที่ไม่มีความรู้ใด ๆ มาก่อน กระทั่งได้มาศึกษาคำว่าพอเพียงจนเข้าใจ จากที่มีสมาชิกเล็กน้อยเพิ่มเป็น 30 คนแล้ว มีเงินหมุนเวียนในกลุ่มเดือนละ 3,000-6,000 บาท รายได้มีหลายทางจากพื้นที่ 5 ไร่ ทั้งการขายไข่นกกระทาที่ส่งไปขายทุกวัน และไก่ไข่ที่ออกไข่ขายบ้าง ชาวบ้านไปทำกินบ้าง พร้อมกับผักที่ปลูกไว้กินไว้ขาย
ด้านนางนุชติยา ใจดี อายุ 41 ปี สมาชิกในกลุ่ม กล่าวว่า ทุกวันนี้ครอบครัวและเพื่อนสมาชิกในกลุ่มมีกินมีใช้ ดีใจที่ได้ดำเนินชีวิตตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ชาวบ้านทุกคนเข้าใจนำมาปฏิบัติเห็นผล และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอย่างหาที่เปรียบมิได้ แม้พระองค์สวรรคตแล้ว แต่พระองค์ยังสถิตย์อยู่ในดวงใจของพสกนิกรตลอดกาล
สำหรับศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงบ้านนาแคแห่งนี้ยังกลายเป็นหนึ่งสถานที่ที่มีหน่วยงานท้องถิ่นประชาชนนักศึกษาเดินทางมาศึกษาเรียนรู้จากคำว่า “พอเพียงของในหลวง”.-สำนักข่าวไทย