มอสโก 12 ส.ค.- รัสเซียอพยพประชาชนออกจากบางพื้นที่ของแคว้นเบลโกรอดที่มีพรมแดนติดกับยูเครนในวันนี้ นับเป็นแคว้นที่ 2 ที่มีการอพยพประชาชน เนื่องจากกองกำลังยูเครนเพิ่มการรุกคืบใกล้พรมแดน หลังจากรุกเข้าไปในดินแดนรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อไม่กี่วันก่อน
กองกำลังยูเครนฝ่าพรมแดนเข้าไปในแคว้นคุสค์ของรัสเซียเมื่อวันอังคารที่แล้ว เป็นการจู่โจมที่สร้างความประหลาดใจ แต่รัสเซียสามารถรักษาการสู้รบบริเวณแนวหน้าของแคว้นนี้ได้ภายในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แม้ว่ายังคงมีการสู้รบต่อเนื่องมาในวันนี้ ด้านผู้ว่าการแคว้นเบลโกรอดที่อยู่ถัดจากแคว้นคุสค์ลงไปทางใต้แจ้งว่า ได้เริ่มการอพยพประชาชนออกจากเขตที่มีศัตรูเคลื่อนไหวอยู่บริเวณพรมแดน เพื่อนำประชาชนไปยังที่ปลอดภัย
รัสเซียได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในแคว้นคุสค์ (Kursk) แคว้นเบลโกรอด (Belgorod) และแคว้นบรีอันสค์ (Bryansk) ขณะที่เบลารุสซึ่งเป็นพันธมิตรกับรัสเซียได้เสริมกำลังพลบริเวณพรมแดนด้านติดกับยูเครน หลังจากกล่าวหายูเครนว่า บินโดรนล่วงล้ำน่านฟ้าของเบลารุส
เจ้าหน้าที่รัสเซียระบุว่า ยูเครนโจมตีดินแดนของรัสเซียหวังอวดชาติตะวันตกที่เป็นกลุ่มผู้สนับสนุนว่า ยูเครนยังสามารถปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ได้ และหวังมีแต้มต่อหากมีการเจรจาหยุดยิงในอนาคต ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนยอมรับเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมว่า กองกำลังยูเครนรุกเข้าไปในดินแดนรัสเซียหวังกอบกู้ความยุติธรรมและสร้างแรงกดดันให้แก่กองกำลังรัสเซีย ทั้งนี้นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 รัสเซียสามารถยึดดินแดนยูเครนได้แล้วร้อยละ 18.-814.-สำนักข่าวไทย