กบข.ผนึกกำลังทิพยประกันภัย ดูแลสมาชิก

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – กบข. จับมือทิพยประกันภัย ออกแคมเปญพิเศษประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล นำรายได้ส่วนหนึ่งมอบทุนการศึกษา 27 โรงเรียนทั่วประเทศ


นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข. จับมือทิพยประกันภัย ผ่านโครงการ “กบข.-ทิพย เติมเต็มความสุข ส่งต่ออนาคต” เพื่อมอบความคุ้มครองและดูแลชีวิตสมาชิก กบข. กับบริการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล เบี้ยประกันราคาพิเศษ และสนับสนุนการศึกษาให้กับเยาวชน ระยะเวลาโครงการ 1 ปี สิ้นสุดเดือนสิงหาคม 2568

โดยโครงการฯ นี้ ทิพยประกันภัยจะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล มอบเป็นทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนจำนวน 27 แห่งทั่วประเทศ ซึ่ง กบข. อยู่ระหว่างการประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อคัดเลือกโรงเรียนที่ต้องการให้สนับสนุนและสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชน โดยทุกการซื้อกรมธรรม์ประกันภัยของสมาชิก กบข. ส่วนหนึ่งจะนำไปสมทบเป็นทุนการศึกษา ปัจจุบัน กบข. มีสมาชิก 1.2 ล้านราย มียอดการใช้สิทธิสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของสวัสดิการทั้งหมดของ กบข. ซึ่งมีการใช้สิทธิหมวดประกันเฉลี่ยปีละ 7% จากสมาชิกทั้งหมด


ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 72 ปี ทิพยประกันภัย และครบรอบ 27 ปี กบข. ทั้งสององค์กรได้ร่วมกันจัดตั้งโครงการ “กบข.-ทิพย เติมเต็มความสุข ส่งต่ออนาคต” เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิก กบข. เพื่อสนับสนุนให้สมาชิก กบข.ทุกคนได้มีประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล เพื่อเป็นหลักประกันให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ปราศจากความกังวล

ด้วยกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุระยะสั้นในราคาพิเศษ 27 บาท ให้ความคุ้มครองสูงสุด 10,000 บาท และ 72 บาท ให้ความคุ้มครองสูงสุด 72,000 บาท ระยะเวลาความคุ้มครอง 30 วัน ตั้งแต่วันที่ซื้อกรมธรรม์ สมาชิก กบข. โดยสมาชิก กบข. สามารถซื้อกรมธรรม์ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตั้งแต่วันนี้-31 สิงหาคม 2568 ลูกค้าสมาชิก กบข. ที่ซื้อประกันภัยจะได้รับกรมธรรม์ในรูปแบบ e-policy เพื่อสนับสนุนการลดการใช้กระดาษและช่วยลดโลกร้อน

สำหรับลูกค้าสมาชิก กบข. ที่ซื้อประกันอุบัติเหตุระยะสั้น ภายใต้โครงการ “กบข.-ทิพย เติมเต็มความสุข ส่งต่ออนาคต” ทุกกรมธรรม์ ตั้งแต่วันนี้-31 สิงหาคม 2568 จะได้ร่วมลุ้นรับรางวัลต่างๆ มากมาย รวมมูลค่ากว่า 600,000 บาท อาทิ จักรยานยนต์ไฟฟ้า จำนวน 10 รางวัล สลากออมสิน จำนวน 72 รางวัล กระเป๋าเดินทาง จำนวน 72 ใบ เป็นต้น.-515-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่

ระเบิดปากีสถาน

ยอดเสียชีวิตจากเหตุระเบิดสถานีรถไฟปากีสถานเพิ่มเป็น 24 รายแล้ว

เหตุระเบิดสถานีรถไฟในเมืองเควตตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็ดมากกว่า 40 ราย