ทำเนียบ 16 ก.ค.-ครม.ไฟเขียวรับหลักการร่างกฎกระทรวงการจ่ายค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายจากการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคติดต่อ
นาวคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการจ่ายค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายจากการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ. …. ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการจ่ายค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกัน หรือควบคุมโรคของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเสียหายแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558
นายคารม กล่าวว่า ข้อเท็จจริงและสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอว่า
1.พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 48 บัญญัติให้ในการดำเนินการของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามพระราชบัญญัตินี้ หากเกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลใดจากการเฝ้าระวัง การป้องกัน หรือการควบคุมโรค ให้ทางราชการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นให้แก่ผู้นั้นตามความจำเป็น ซึ่งการชดเชยความเสียหายดังกล่าวให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง ประกอบกับพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นการกำหนดมาตรการทางกฎหมายของประเทศไทยให้สอดคล้องกับกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2548 ซึ่งเป็น พันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยต้องปฏิบัติตาม สธ. จึงได้ยกร่างกฎกระทรวงการจ่ายค่าทดแทนเพื่อชดเขยความเสียหายจากการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ. …. เพื่อกำหนดมาตรการทางกฎหมายในกรณีการดำเนินการของเจ้าพนักงานควบคมโรคติดต่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลใดจากการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคอันจะเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเสียหายของประชาชนที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
1.1กำหนดให้ในกรณีที่มีการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อแล้วเกิดความเสียหายขึ้น ให้ดำเนินการกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้ (1) ในกรณีที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อได้รายงานด้วยตนเองถ้าความเสียหายเกิดขึ้นในเขตจังหวัด ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดรายงานต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แต่หากความเสียหายเกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร ให้ผู้อำนวยการสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร รายงานต่อคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ต้องดำเนินการภายใน 7 วันนับแต่วันที่รู้หรือควรจะได้รู้ถึงความเสียหาย (2) ในกรณีผู้เสียหายหรือทายาทโดยธรรมของผู้เสียหายได้ยื่นคำขอรับค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายด้วยตนเอง ให้ผู้เสียหายยื่นคำขอที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หากความเสียหายเกิดขึ้นในเขตจังหวัด หรือสำนักอนามัย กรุงเทพมหานครหากเกิดความเสียหายขึ้นในเขตกรุงเทพมหานคร โดยต้องยื่นคำขอภายใน 90 วันนับแต่วันที่รู้หรือควรจะได้รู้ถึงความเสียหาย โดยให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด หรือผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานครรายงานต่อรายงานต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครแล้วแต่กรณี ภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับคำขอ
1.2กำหนดให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร มีหน้าที่พิจารณากำหนดค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายแก่ผู้เสียหายโดยให้คำนึงถึงสภาพความเสียหายที่ผู้เสียหายได้รับ ประโยชน์ที่ผู้เสียหายได้รับ รวมถึงโอกาสที่ผู้เสียหายจะได้รับการบรรเทาความเสียหายในทางอื่นด้วย ซึ่งต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันได้รับรายงาน และหาถมีเหตุจำเป็นอาจขยายระยะเวลาออกไปอีกได้ไม่เกิน 30 วันนับแต่ครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าว โดยกำหนดให้พิจารณาค่าทดแทนเพื่อชดเขยความเสียหาย ดังนี้ (1) ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการรักษาพยาบาล ให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท (2) ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกาย ให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท (3) ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ในระหว่างที่ไม่สามารถประกอบการงานไต้ตามปกติ ให้จ่ายในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในท้องที่จังหวัดที่ประกอบการงาน ณ วันที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ เป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 วันนับแต่วันที่ไม่สมารถประกอบการงานได้ตามปกติ (4) ในกรณีที่ผู้เสียหายถึงแก่ความตาย ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครพิจารณากำหนดค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่ทายาทโดยธรรมของผู้เสียหายนั้น ดังต่อไปนี้ 1) ค่าทดแทน ให้จ่ายเป็นเงินจำนวนตั้งแต่ 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท 2) ค่าจัดการศพ ให้จ่ายเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท และ 3) ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู ให้จ่ายเป็นเงินจำนวนไม่เกิน 30,000 บาท (5) ค่าเสียหายอื่นนอกจาก (1) (2) (3) และ (4) ให้จ่ายเป็นเงินตามจำนวนที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครเห็นสมควร แต่ไม่เกิน 30,000 บาท และ (6) ในกรณีความเสียหายเกิดขึ้นกับทรัพย์สินของผู้เสียหาย ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครคำนึงถึงสภาพของทรัพย์สินนั้น ราคาตามท้องตลาด หรือราคาอ้างอิงจากทางราชการในวันที่เกิดความเสียหายและปัจจัยอื่นที่ทำให้เกิดความเป็นธรรม
1.3ในกรณีที่กำหนดค่าชดเชยความเสียหายแก่ผู้เสียหายหรือทรัพย์สินของผู้เสียหายแล้ว ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครดำเนินการ ดังนี้ 1) ในกรณีที่ค่าทดแทนความเสียหายเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 400,000 บาท ให้เสนอเรื่องไปยังกรมควบคุมโรคเพื่อพิจารณากำหนดค่าทดแทนและดำเนินการเบิกจ่ายค่าทดแทนต่อไป 2) ในกรณีที่ค่าทดแทนความเสียหายเป็นจำนวนเงินเกินกว่า 400,000 บาท ให้เสนอเรื่องไปยังกรมควบคุมโรคเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติพิจารณากำหนดค่าทดแทน โดยให้กรมควบคุมโรคดำเนินการเบิกจ่ายค่าทดแทนต่อไป
1.4ในกรณีที่เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหายหรือทรัพย์สินของผู้เสียหายต่อเนื่องกันหลายจังหวัดหรือระหว่างจังหวัดกับกรุงเทพมหานคร ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหรือผู้อำนายการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี รายงานต่อกรมควบคุมโรคภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับรายงานจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือวันที่ได้รับคำขอจากผู้เสียหาย และให้กรมควบคุมโรคเสนอเรื่องไปยังคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเพื่อพิจารณาค่าทดแทนต่อไป
“ร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้เป็นกฎหมายลำดับรองที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งมีผลใช้บังคับก่อนวันที่พระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับจึงอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติดังกล่าวที่กำหนดให้ต้องมีการออกกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ภายในระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่พระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ (ภายในวันที่ 27 พฤศจิกายน ๒๕๖๖) ซึ่งคณะรัฐมนตร์ได้มีมติเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 เห็นขอบให้ขยายระยะเวลาดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองที่ออกตามความในพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ออกไปอีก 1 ปี นับแต่วันที่ครบกำหนด จนถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567” นายคารม กล่าว.-317.-สำนักข่าวไทย