ทำเนียบฯ 9 ก.ค. – สิงห์อมควัน ผวา! ครม. คุมเข้มยาสูบ แจ้งสูตรปรุงแต่ง เก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 1 แสนบาท ขณะที่คลัง กฤษฎีกา แย้ง “พืชตระกูลมินต์”
นางสาวเกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ และสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ ตามกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ หลังได้เปิดรับฟังความคิดเห็นพร้อมรายงานวิเคราะห์ผลกระทบ ร่างกฎกระทรวงมีสาระสำคัญดังนี้ 1.กำหนดให้ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ยาสูบประเภทบุหรี่ซิกาแรตและบุหรี่ซิการ์ ขายในประเทศ ต้องแจ้งรายการส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบและสารที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้
2.กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบต้องไม่มีสารที่ใช้ในการปรุงแต่ง สารที่ทำให้เกิดสีอันอาจจูงใจหรือดึงดูดให้บริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบ สารที่ทำให้เข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ยาสูบมีประโยชน์ต่อสุขภาพหรือลดอันตรายต่อสุขภาพ หรือสารที่ทำให้เข้าใจว่าเพิ่มพลังงานและความมีชีวิตชีวา
3.กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบต้องมีปริมาณสารที่เกิดจากการเผาไหม้ ไม่เกินปริมาณที่กำหนด ได้แก่ (1) ทาร์ ไม่เกิน 10 มิลลิกรัมต่อมวน (2) นิโคติน ไม่เกิน 1 มิลลิกรัมต่อมวน และ (3) คาร์บอนมอนอกไซต์ ไม่เกิน 10 มิลลิกรัมต่อมวน 4.กำหนดให้การดำเนินการตามร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ ดำเนินการด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก
5.กำหนดให้ใบรับรอง มีอายุ 3 ปี กรณีต้นฉบับใบรับรองชำรุด สูญหาย หรือถูกทำลายในสาระสำคัญ ให้ยื่นคำขอรับใบแทนใบรับรอง ภายใน 15 วัน และให้ใบแทนใบรับรองมีอายุเท่ากับระยะเวลาที่เหลืออยู่ตามต้นฉบับใบรับรอง 6.กำหนดให้เปิดเผยข้อมูลส่วนประกอบและสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของผลิตภัณฑ์ยาสูบ 7.กำหนดค่าธรรมเนียมใบรับรองอัตราฉบับละ 100,000 บาท และใบแทนใบรับรองอัตราฉบับละ 2,000 บาท มีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา และภายในระยะเวลา 4 ปี
ขณะที่กระทรวงการคลัง ให้ความเห็นว่า กระทรวง สธ. ควรศึกษาปริมาณการใช้ส่วนประกอบที่เหมาะสมไม่ให้เป็นกลิ่นหรือ รสที่เด่นกว่าธรรมชาติของยาสูบ มองว่าการอนุญาตให้ใช้เมนทอลซึ่งเป็นสารสกัดจากพืชตระกูลมินต์ แต่ไม่อนุญาตให้ใช้พืชตระกูลมินต์ได้เป็นถ้อยคำที่ขัดแย้งและไม่สอดคล้องกันเอง ดังนั้นขอให้พิจารณาในส่วนที่เกี่ยวกับสารอื่นใดที่ทำให้เกิดรสชาติและหรือกลิ่นของเมนทอล และชะเอมด้วย และถ้อยคำที่ว่า “…หรือสารอื่นใดที่ทำให้เกิดรสชาติ หรือกลิ่นอันอาจจูงใจหรือดึงดูดให้บริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบหรืออาจทำให้การบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบง่ายขึ้น…” อาจทำให้เกิดปัญหาในการตีความและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย และควรกำหนดกรอบระยะเวลา ให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยาสูบ ชาวไร่ผู้ปลูกยาสูบ ปรับตัวหลังการบังคับใช้
ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มีข้อสังเกตเพิ่มเติม เรื่องส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ ต้องไม่มีสารที่ใช้ในการปรุงแต่งตามที่กำหนดไว้ โดยยกเว้นเมนทอล และชะเอมนั้น อาจไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกฎกระทรวงนี้ และวัตถุประสงค์ของกรอบอนุสัญญาฯ สธ.ควรศึกษาผลกระทบและรับฟังความคิดเห็นจากแพทย์และผู้เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน.-515- สำนักข่าวไทย