นนทบุรี 6 ก.ค.-รมว.พาณิชย์ ให้ อคส.ตรวจเช็ก 6 บริษัทที่ยืนประมูลข้าวเก่า 10 ปีให้ละเอียดถูกต้องตามกฎหมายก่อนประกาศชื่อบริษัทที่มีคุณสมบัติครบถ้วนได้เข้าไปต่อรองราคาให้ได้ราคาสูงสุด ย้ำ “วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง” แม้จะให้ราคาสูงถึง 19.073 บาท/กก. แต่ผลตรวจสอบเบื้องต้นหนักสุดที่จะถูกคัดชื่อออก
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า ขณะนี้ การตรวจสอบเชิงลึกทุกด้านใน 6 บริษัทที่ได้ยืนซองประมูลข้าวสารสตอกรัฐ 10 ปีกว่า 15,000 ตัน ประกอบด้วย 1.บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จังหวัด กำแพงเพชร 2.บริษัท ธนสรร ไรซ์ จังหวัดชัยนาท 3.บริษัเอส.เอส.เอ็ม.อา.การเกษตร จังหวัดนครสวรรค์ 4.บริษัท ทรัพย์แสงทอง สุพรรณบุรี 5.บริษัท สหธัญ จังหวัดนครปฐม และ6.บริษัท บีเอ็นเค การเกษตร 2024 จังหวัดนครสวรรค์ โดยบริษัทวีเอท อินเตอร์เทรดดิ้งให้ราคาข้าวสารสูงสุดถึง 19.07 บาทต่อ กก หรือกว่า 286 ล้านบาท และได้ทำหนังสื่อเพิ่มราคาให้รัฐเป็น 19.073 บาทต่อ กก ก็ตาม แต่จากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของบริษัทวีเอทออกมาต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นทุนจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท หรือเงินทุนหมุนเวียน และอาจเป็นบริษัทนอมินีของบริษัทอื่นๆ ทำให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตัดสินใจชะลอการประกาศผลผู้ที่ชนะประมูลที่ให้ราคาข้าวสารค้างเก่ามากสุดออกไประยะหนึ่งก่อน และให้ทาง อคส.ตรวจเช็ครายละเอียดทั้ง 6 บริษัทดังกล่าวไม่เพราะหน่วยงานของกระทรวงพาณิย์เท่านั้น โดยให้ตรวจและขอข้อมูลเอกสารยืนยันทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาทั้ง 6 รายที่ผ่านมาได้ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทาง อคส.มีการรายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ทราบบ้างแล้ว แต่สาเหตุที่ล่าช้าและยังไม่สามารถประกาศรายชื่อผู้ที่ชนะได้ข้าวสารจำนวนนี้ไปได้นั้น เนื่องจาก อคส.จะต้องรอเอกสารข้อมูลยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณา ทำให้เกิดความล่าช้าที่ยังไม่สามารถประกาศรายชื่อออกมาได้ และที่สำคัญกระทรวงพาณิชย์ต้องการให้เกิดความโปร่งใสและไม่อยากให้เกิดปัญหาภายหลังตามมาอีก จึงอาจใช้เวลาในการตรวจสอบทั้ง 6 บริษัทนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ และเท่าที่ได้รับรายงานผลการตรวจสอบบริษัทวีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง เบื้องต้นมีแนวโน้นที่จะไม่ผ่านและไม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะประมูลข้าวสารสตอกรัฐในครั้งนี้ เพราะยิ่งตรวจสอบเชิงลึกพบว่าบริษัทวีเอทผิดปกติในหลายเรื่อง ดังนั้น เมื่อได้เอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครบถ้วนแล้ว อคส.จะสรุปผลทันที
ทัังนี้ โดยขั้นตอนหลังจาก อคส.ได้มีการรายงานผลต่อนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ทราบแล้ว อคส.จะออกประการบริษัทที่ไม่ผ่านการตรวจสอบและบริษัทที่ผ่านจะดำเนินการต่อรองราคาข้าวอีกครั้งหนึ่ง โดยบริษัทที่ให้ราคาข้าวสารสตอกรัฐรองจากบริษัทวีเอท ประกอบด้วย บริษัท สหธัญ จำกัด ที่เสนอราคาไว้ 18.69 บาท/กก. อันดับ 3 บริษัท ธนสรรไรซ์ จำกัด เสนอราคาไว้ 18.01 บาท/กก. และอันดับที่ 6 เสนอราคา 12.20 บาท/กก.
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์กล่าวย้ำว่า เรื่องการประมูลข้าวสารสตอกค้างเก่าในครั้งนี้ ถูกโยงเป็นเรื่องประเด็นการเมือง ดังนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไม่ต้องการให้ปล่อยผ่านทุกขั้นตอนต้องตอบสังคมให้ได้ จึงทำให้เกิดความล่าช้าของการออกประกาศผู้ชนะประมูล และไม่ว่าผลที่จะออกมาแม้บริษัทวีเอทที่ให้ราคาข้าวสารสตอกรัฐสูงถึงกว่า 286 ล้านบาท แต่เชื่อว่าหาก อคส.มีการต่อรองราคากับรายอื่นๆ แม้จะได้ต่ำหรือสูงกว่ารายแรกก็เชื่อว่าจะได้เม็ดเงินเข้าคลังถือว่าไม่น้อยและไม่ถูกตำหนิหรือถูกดำเนินคดีตามหลังมาแน่นอน.-514-สำนักข่าวไทย