fbpx

“นพดล” หนุนงบ 68 พร้อมให้กำลังใจนายกฯ

รัฐสภา 20 มิ.ย.-“นพดล” สส.เพื่อไทย หนุนงบ 68 ชี้ไทยไม่จำเป็นต้องเลือกข้าง ย้ำต้องกระชับแน่นกับทุกประเทศ พร้อมให้กำลังใจนายกฯ เข้าใจหนัก-เหนื่อย เพื่อให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น หวังงบที่จัดสรรให้ ก.ต่างประเทศ จะกอบกู้เกียรติภูมิประเทศคืนมา

ในการประชุมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้อภิปราย ถึงความท้าทายด้านการต่างจองประเทศไทย 5 ประการ ได้แก่


1.เศรษฐกิจโลกกำลังมุ่งสู่การแบ่งขั้วที่เข้มข้นมากขึ้น พรรคเพื่อไทย ยึดมั่นประโยชน์แห่งชาติต้องมาก่อน เรียกว่านโยบายต่างประเทศที่กินได้ คือ การทูตเศรษฐกิจเชิงรุก ต้องไปขยายตลาด คว้าโอกาสใส่มือคนไทย เร่งทำ FTA แสวงหาโอกาสจากการย้ายฐานการผลิต ดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติมาลงทุนตั้งฐานการผลิต การที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไปต่างประเทศ ไม่ได้ไปอาบแดด ตนในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทราบดีว่าเหนื่อยและหนัก คำวิจารณ์ที่บอกว่าไปแล้วสิ้นเปลืองงบประมาณ ไม่เป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี เพราะเมื่อโอกาสไม่มาหาเรา เราต้องออกไปหาโอกาส และการลงทุนในระดับ 2-3 แสนล้าน ต้องใช้เวลา ไม่ใช่การเพาะถั่วงอกที่ 3-4 วันกินได้ ต้องบอกว่า ไม่ใช่อิกนอร์ไทยแลนด์ (IGNORE THAILAND) แต่เป็นความสำเร็จอีกแล้วหนอไทยแลนด์

2.ความไม่ชัดเจนของบทบาทและสถานะของไทยในเวทีระหว่างประเทศ เราต้องกอบกู้เกียรติภูมิ และสร้างบทบาทไทยในเวทีโลก เรายึดมั่นตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ถ้าเพื่อนบ้านดี ก็สามารถแสวงหาความร่วมมือทวิภาคีได้ จุดยืนไทยต้องเป็นผู้สนับสนุนสันติภาพ ต้องผลักดันการแก้ปัญหาในเมียนมา สร้างเอกภาพ สันติภาพ และสถียรภาพในเมียนมาให้ได้ พร้อมฝากถึงรัฐบาลว่า ไทยควรช่วยเหลือมนุษยธรรมเมียนมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงต้องกลับมาอยู่ในจอเรดาร์ของโลกอย่างชัดเจนและมีทิศทาง


3.การแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศที่เข้มข้น ดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างสมดุล เราไม่จำเป็นต้องเลือกข้างมหาอำนาจข้างใดข้างหนึ่ง และต้องสร้างให้กระชับแน่นกับทุกประเทศ เราจะดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างสมดุลบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ (rule based international order) เป็นสิ่งที่เราต้องทำ

4.ปัญหาภัยคุกคามหรือความมั่นคงรูปแบบใหม่ ขอเน้นในเรื่องฝุ่น PM 2.5 ข้ามแดน ไทยต้องแสวงความร่วมมือกับเพื่อนบ้าน รัฐบาลได้ริเริ่มนโยบายยุทธศาสตร์ฟ้าใส (CLEAR Sky Strategy) กับลาว กัมพูชา และเมียนมา เพื่อปกป้องคนไทยไม่ให้สูดฝุ่นพิษข้ามแดน ขอให้กำลังใจรัฐบาล และควรทำให้สำเร็จ เพราะตัวเลขผู้ป่วยมะเร็งปอดในภาคเหนือมีตัวเลขค่อนข้างน่ากังวลใจ

5.นโยบายการต่างประเทศต้องเป็นเครื่องมือหนึ่งในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของไทย โดยรัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้กระทรวงต่างประเทศ 9,014 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 204 ล้านบาท ถือว่าต่ำ ซึ่งด้วยศักยภาพของข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศที่เคยทำงานในเวลาสั้นๆ รู้ว่าเก่ง สุจริต และมีประสิทธิภาพ มั่นใจว่าแม้งบจะไม่มาก แต่สามารถผลักดันงานต่างๆ ได้ แต่ขอติงเรื่องงบประมาณซอฟต์พาวเวอร์ 148 ล้านบาท มองว่าต้องเพิ่มเติมขึ้น เพราะกระทรวงการต่างประเทศต้องผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ทางการทูตด้วย พร้อมยกตัวอย่างยิ้มสยามว่า มีนัยแฝงว่าอยากให้ทุกคนหันหน้าพูดคุยโดยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ โยนเมล็ดพันธ์ของความไว้วางใจ มากกว่าไปใส่ไฟแห่งความขัดแย้งในเวทีโลก


พร้อมกันนี้ นายนพดล ยังได้อภิปรายต่อไปถึงข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ 7 ข้อ ประกอบด้วย

1.เร่งเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป และไทย-สหราชอาณาจักร
2.ตอกย้ำบทบาทของไทยในการเป็นผู้สนับสนุนสันติภาพและความมั่งคั่งในเวทีโลกอย่างแข็งขัน
3.เผชิญความท้าท้ายโลกแบ่งขั้วด้วยการทูตแบบสมดุล โดยยึดมั่นระเบียบโลกภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ
4.ผนึกมิตรประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงรูปแบบใหม่ (PM 2.5) ข้ามพรมแดน
5.เป็นผู้นำในการสร้างสันติภาพและเอกภาพในเมียนมา
6.เร่งเพิ่มการค้าชายแดน เจรจาพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนทางทะเล ไทย-กัมพูชา
7.ปกป้องผลประโยชน์ของคนไทยในต่างแดน เร่งช่วยเหลือตัวประกันชาวไทย 6 คนในกาซา

ในช่วงท้าย นายนพดล กล่าวในช่วงท้ายว่า “งานต่างประเทศเป็นงานที่เน้นผลสำเร็จของงาน ถ้าเปรียบเป็นกีฬามันไม่ใช่ยิมนาสติกลีลา แต่เป็นฟุตบอล แพ้ชนะอยู่ที่การยิงประตู เพราะฉะนั้นความสำเร็จของงาน จำเป็น ผมให้กำลังใจท่านนายกรัฐมนตรี ท่านทำงานหนัก เหนื่อย เพื่อชีวิตคนไทยที่ดีขึ้น ผมหวังว่างบ 68 ที่จัดสรรให้กระทรวงการต่างประเทศ เราจะกอบกู้เกียรติภูมิของประเทศคืนมา กอบกู้ศักดิ์ศรีของคนไทยคืนมา สร้างรายได้ขยายโอกาสให้กับประเทศไทย ผมขอสนับสนุนงบ 68 และการทำงานด้านต่างระเทศ”.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด