ตำรวจนำตัวคนขับรถแท็กซี่เก็บทองได้ส่งฟ้องศาล

สน.บางยี่ขัน 28 พ.ค. – ตำรวจ สน.บางยี่ขัน นำตัวคนขับรถแท็กซี่เก็บทองได้ 49 บาท ไม่ส่งคืนเจ้าของ ส่งฟ้องศาลแขวงตลิ่งชัน เบื้องต้นเจ้าตัวให้การรับสารภาพยอมรับทุกข้อกล่าวหา


พนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายสง่า อายุ 63 ปี คนขับแท็กซี่ที่เก็บกระเป๋าบรรจุทองคำ 49 บาท ได้บริเวณปากซอยบรมราชชนนี 7 ถนนบรมราชชนนี และไม่นำทองส่งคืนเจ้าของ หรือส่งมอบแก่พนักงานสอบสวน ว่าช่วงเช้าวันนี้ ทางพนักงานสอบสวนตั้งข้อหาลักทรัพย์กับนายสง่า เนื่องจากตามพยานหลักฐานภาพวงจรปิด โดยพฤติการณ์ชี้ชัดว่า นายสง่ามีเจตนาที่จะเบียดบังกรรมสิทธิ์ของกระเป๋าใบดังกล่าวเป็นของตน เพราะตามหลักวิญญูชนแล้ว ผู้ใดที่สามารถเก็บของที่ตกหล่นได้ ควรจะต้องนำไปแจ้งกับเจ้าของสถานที่, ผู้ดูแลสถานที่, ประกาศตามหาเจ้าของ, หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างกรณีนี้นายสง่า สามารถแจ้งเจ้าของอู่รถแท็กซี่ได้ แต่นายสง่าเมื่อเก็บกระเป๋าได้ กลับไม่สนใจที่จะนำกระเป๋าส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตามหาเจ้าของหรือแม้กระทั่งแจ้งไปยังแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวที่เป็นคนพบกระเป๋าใบนั้น กลับเก็บกระเป๋าไปเงียบๆ คนเดียว

ส่วนที่นายสง่าให้ปากคำว่า ตนเองไม่มีทีวีหรือสื่อสังคมออนไลน์ แม้กระทั่งวิทยุที่จะสามารถรับฟังข่าวได้ว่ามีการประกาศตามหาทองคำนั้น ทางพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้ว เห็นว่าฟังไม่ขึ้น เนื่องจากคนขับแท็กซี่เองนั้น จะต้องมีกลุ่มเครือข่ายในการสื่อสารพูดคุยกัน รวมทั้งแท็กซี่ในประเทศไทย ต้องรับรู้ถึงช่องทางในการแจ้งข้อมูลข่าวสารของหายทางวิทยุ เช่น จส.100, วิทยุร่วมด้วยช่วยกัน หรือ สวพ.91 ก็ได้ แต่ไม่ปรากฏว่ามีการแจ้งของหายแต่อย่างใด จึงเชื่อได้ว่ามีพฤติการณ์เพียงพอที่จะสามารถตั้งข้อหาลักทรัพย์ได้


อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่ได้เป็นการจับกุมตามหมายจับ แต่เป็นการเชิญมาให้ปากคำและตั้งข้อหา ทางพนักงานสอบสวน จึงได้ปล่อยตัวนายสง่ากลับไปและได้นัดหมายให้มาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งในช่วงเช้าวันนี้ เพื่อนำตัวส่งฟ้องยังศาลแขวงตลิ่งชันต่อไป เบื้องต้นนายสง่าให้การรับสารภาพยอมรับทุกข้อกล่าวหา

ส่วนกรณีที่มีรายงานข่าวว่า นายสง่าได้มีการนำทอง 2 บาท ไปขายได้เงินจำนวน 60,000 บาทนั้น ทางพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง น่าจะเป็นรายงานข่าวที่เกิดความเข้าใจผิด เพราะเนื่องจากการสอบปากคำ พบว่านายสง่าไม่ได้มีการนำทองไปจำหน่ายหรือไปวัดตาชั่งที่ร้านทองตามที่มีรายงานข่าว อีกทั้งเป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่า ตลาดทองคำขณะนี้ มีราคาพุ่งสูงทั้งทองรูปพรรณและทองคำแท่งทะลุบาทละ 40,000 กว่าบาท จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะขายทองสภาพใหม่จำนวน 2 บาท ในราคาเพียงแค่ 60,000 บาท นอกจากนี้ เสี่ยปุ๊ เจ้าของทองคำก็นำตาชั่งมาวัดพร้อมยืนยันต่อหน้าพนักงานสอบสวนแล้วว่า ได้ทองคำคืนครบทั้ง 49 บาท จึงยืนยันว่า รายงานข่าวดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ทางพนักงานสอบสวนได้นำตัวนายสง่าจาก สน.บางยี่ขัน ไปส่งฟ้องยังศาลแขวงตลิ่งชันแล้ว ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา. -419-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ย้ายช้างพลายดอกแก้ว

เริ่มเคลื่อนย้าย “พลายดอกแก้ว” จากมูลนิธิอนุรักษ์ช้างฯ สู่บ้านหลังใหม่

วันนี้ทีมสัตวแพทย์และควาญช้าง เริ่มปฏิบัติการเคลื่อนย้าย “ช้างพลายดอกแก้ว” ออกจากมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ไปยังบ้านหลังใหม่แล้ว

‘นักการเมือง-นักธุรกิจ’ ร่วมยินดีงานฉลองสมรส 2 ทายาทดัง

‘ทักษิณ-อิ๊งค์-นักการเมือง-นักธุรกิจ’ แห่ยินดีงานฉลองสมรส 2 ทายาทนักการเมืองดัง ‘ปานปรีย์-สุวัจน์’ พร้อมอวยพรคู่บ่าวสาว

ทนายรับ “มิน พีชญา” เครียด กินอาหารได้น้อย

ทนายความยอมนรับ “มิน พีชญา” ยังปรับตัวไม่ได้ แต่กำลังใจดี และยืนยันไม่ได้ทำอะไรผิด รับประทานอาหารได้น้อย เนื่องจากเป็นโรคกระเพาะ

ข่าวแนะนำ

ยึดรถบอสดิไคอน

ตำรวจยึดรถ “บอสพอล-บอสกันต์” เพิ่มเติมรวม 4 คัน

ตำรวจยึดรถ “บอสพอล-บอสกันต์” เพิ่มเติมรวม 4 คัน ขณะที่พนักงานสอบสวนชุดเล็กประชุมสรุปรายงานผลการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เตรียมรายงานคณะทำงานชุดใหญ่พรุ่งนี้

อธิบดีกรมป่าไม้สั่งตรวจสอบการใช้ที่ดินของพระ ว.วชิรเมธี

อธิบดีกรมป่าไม้ ระบุจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบการใช้ที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติของศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวันซึ่งก่อตั้งโดยพระ ว.วชิรเมธี ว่า เกินกว่าที่ขออนุญาตจากกรมป่าไม้หรือไม่ หากพบมีทั้งโทษปรับและจำคุก ตลอดจนต้องยึดคืนพื้นที่

ย้ายช้างพลายดอกแก้ว

เริ่มเคลื่อนย้าย “พลายดอกแก้ว” จากมูลนิธิอนุรักษ์ช้างฯ สู่บ้านหลังใหม่

วันนี้ทีมสัตวแพทย์และควาญช้าง เริ่มปฏิบัติการเคลื่อนย้าย “ช้างพลายดอกแก้ว” ออกจากมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ไปยังบ้านหลังใหม่แล้ว