ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ชี้การร้องเอาผิดวินัยตำรวจระดับสูงใช้มาตรฐานเดียวกัน

กรุงเทพฯ 4 เม.ย. – ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เผยการร้องเอาผิดทางวินัยตำรวจระดับสูง ใช้มาตรฐานกฎหมายเดียวกัน หากพบมีมูลผิดวินัยร้ายแรงมีกรอบระยะเวลาพิจารณา 390 วัน


พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวถึงประเด็นการร้องเรียนเอาผิดทางวินัยนายตำรวจระดับสูงว่า กระบวนการไม่ได้แตกต่างกันกับกรณีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาตรฐานกฎหมายต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งการดำเนินคดีอาญาและการดำเนินการทางวินัย หลังจากที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษนายตำรวจระดับสูง รวมถึงตำรวจที่เกี่ยวข้องและบุคคลอื่นๆ ตามแผนผังที่เกี่ยวข้องกับการรับเงินจากบัญชีม้า โดยขั้นตอนหากพบว่ามีพยานหลักฐานที่จะกล่าวหาบุคคลใดทางพนักงานสอบสวนจะต้องไปขอออกหมายเรียก หรือหมายจับ ซึ่งจะต้องดำเนินการไปตามกระบวนการหากมีหลักฐานเพียงพอ

พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า อีกประเด็นได้มีการร้องเรียนเพื่อดำเนินการทางวินัยกับนายตำรวจระดับสูง โดยนายษิทธา ได้ไปร้องเรียนที่คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวมี 9 คน โดย 3 ใน 9 เป็นตำรวจที่ผ่านการคัดเลือกตามระบบ คือ พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ ส่วนอีก 2 ท่าน คือ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน และ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร เป็นคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ หรือ ก.ร.ตร. นอกจากตำรวจ 3 ท่าน แล้วทางกฎหมายก็ยังกำหนดให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน คัดเลือกผู้แทนมาเป็นกรรมการ 1 คน ส่วนคนที่ 5 ให้สภาทนายความเลือกทนายความที่ว่าความ มีประสบการณ์กว่า 20 ปี คือ เลขาสภาทนายความ ส่วนอีก 2 ท่านเป็นผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นอกจากนี้กฎหมายยังกำหนดให้คณะกรรมการตุลาการพิจารณาผู้พิพากษาระดับศาลอุทธรณ์ 1 ท่าน มาร่วมในคณะนี้ และคณะกรรมการอัยการชั้นผู้ใหญ่ 1 ท่าน เข้ามาร่วม แต่ยังขาดอยู่ อย่างไรก็ตาม ทางกฎหมายระบุว่าเมื่อมี 7 คน ก็สามารถดำเนินการได้


พล.ต.อ.เอก ระบุว่า กรอบและระยะเวลาในการดำเนินการไต่สวนตรวจสอบข้อมูลหลักฐานหากไม่มีมูลก็สั่งยุติจบไป แต่ถ้ามีมูลสามารถไต่สวนพิจารณาหลักฐานต่างๆ ก่อนส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาลงโทษได้ มีกรอบระยะเวลา 120 วัน หากระหว่างการไต่สวนพบว่าเป็นการกระทำความผิดวินัยร้ายแรงโทษสูงสุดอาจถึงไล่ออก ปลดออกมีระยะเวลา 270 วัน ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าวไม่ได้มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมในการพิจารณาด้วย. -419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค ไม่ให้ระบาดในไทย พร้อมยกมาตรรักษาสุขภาวะในพื้นที่อย่างเข้มข้น

ฉายารัฐบาลปี67

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี 67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง”

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง” ฉายานายกฯ “แพทองโพย” ด้าน 7 รัฐมนตรีติดโผ “บิ๊กอ้วน-อนุทิน-ทวี” พ่วง 3 รัฐมนตรีโลกลืม ส่วนวาทะแห่งปี “สามีเป็นคนใต้”

เลือกตั้ง อบจ.อุบลฯ

“กานต์ กัลป์ตินันท์” ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ

“กานต์ กัลป์ตินันท์” ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี พร้อมขอบคุณคนเสื้อแดง และนายทักษิณ ชินวัตร ที่ช่วยผลักดัน