“บิ๊กโจ๊ก” จ่อฟ้องนายกฯ พร้อม ก.ตร. ยกคณะสัปดาห์หน้า

กทม. 27 มิ.ย.-“บิ๊กโจ๊ก” ลั่นคำพูดนายกฯ ให้ความเป็นธรรม เป็นแค่วาทกรรม จ่อฟ้องนายกฯ พร้อม ก.ตร. ยกคณะสัปดาห์หน้า เหตุรับรองมติอนุฯ วินัย คำสั่งให้ออกจากราชการชอบด้วยกฎหมาย

เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาตอบโต้มติคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่เห็นชอบคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ชอบด้วยกฎหมายนั้น ไม่ผิดความคาดหมาย เพราะตนเองเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รู้วิธีการทำงานของตำรวจ และเลขานุการ ก.ตร. ก็ไม่ได้ยืนยันว่าเป็นมติ 12 ต่อ 0 ดังนั้น มติอาจเป็นเพียงการรับทราบเท่านั้น และให้รอผลวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ก็ได้ อีกทั้งคณะอนุกรรมการวินัย ก.ตร. ก็ล้วนแต่เป็นตำรวจ อยู่ใต้บังคับบัญชาของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะมีใครกล้าลงมติว่าผู้บังคับบัญชาผิด


ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกด้วยว่า ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ระบุว่า คณะอนุกรรมการวินัยไม่มีอำนาจพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ของตำรวจว่าถูกหรือผิด มีอำนาจแค่พิจารณาว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีอำนาจสั่งการหรือไม่เท่านั้น ส่วนที่อ้างว่าก่อนหน้านี้มีอนุกรรมการร้องทุกข์ที่สามารถพิจารณาเรื่องคุณและโทษของตำรวจได้นั้น ปัจจุบันได้ถูกยุบไปแล้ว และมี ก.พ.ค.ตร. เข้ามาแทนที่ให้ความเป็นธรรมกับเรื่องร้องทุกข์ของตำรวจ ซึ่งเทียบเท่ากับศาลปกครองชั้นต้น ดังนั้น หลังจากนี้หากผลวินิจฉัยของ ก.พ.ค.ตร. ออกมาเป็นโทษกับตนเอง ตนเองก็จะนำผลไปร้องศาลปกครองสูงสุดต่อไป

ส่วนมติ ก.ตร. ที่ออกมาจะเป็นการกดดันการทำหน้าที่ของ ก.พ.ค.ตร.หรือไม่นั้น ตนเองมองว่าไม่ได้กดดัน เพราะทุกอย่างต้องพิจารณาตามกฎหมายและ พ.ร.บ.ตำรวจฯ ส่วนที่มีคณะกรรมการ ก.พ.ค.ตร. ที่เป็นคู่ขัดแย้งกับตนเอง อีกฝ่ายก็ได้สละสิทธิ์ไปแล้ว ทำให้ตอนนี้เหลือคณะกรรมการแค่ 6 คนในการพิจารณา จึงไม่มีอะไรน่าหนักใจ และตนเองก็ยังเชื่อมั่นใน ก.พ.ค.ตร. ว่าจะให้ความเป็นธรรม


ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังตั้งคำถามถึงพฤติกรรมของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ก่อนหน้านี้มีหนังสือถึงตนเอง บอกว่าคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนชอบด้วยกฎหมายแล้ว แต่กลับไม่นำความกราบบังคมทูลฯ และโยนให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ ก่อนส่งเรื่องกลับไปที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยอ้างว่าคำสั่งไม่สมบูรณ์ แต่ต่อมากลับมานั่งเป็นประธานการประชุม ก.ตร. เมื่อวานนี้ และยังรับรองมติอนุกรรมการวินัยที่เห็นชอบว่าคำสั่งให้ตนเองออกจากราชการไว้ก่อนชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่มีการทักท้วง ดังนั้นถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว เพราะหากคำสั่งเห็นชอบด้วยกฎหมายจริง เหตุใดก่อนหน้านี้นายเศรษฐาจึงไม่นำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ ด้วยเหตุนี้ตนเองจึงเตรียมฟ้องนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการ ก.ตร.ทั้งคณะ รวม 12 คน ในช่วงสัปดาห์หน้า

ส่วนที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า จะให้ความเป็นธรรมกับตนเอง โดยให้รอผล ก.พ.ค.ตร. ใน 30 วันนั้น ไม่ใช่ว่าตนเองไม่เชื่อ แต่มองว่าเป็นเพียงวาทกรรม เพราะในทางปฏิบัตินั้นไม่ใช่ และความผิดของนายกรัฐมนตรีถือว่าสำเร็จแล้วอยู่ดี

ส่วนกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ออกมาให้ความเห็นว่าไม่ควรฟ้องนายกรัฐมนตรีนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มองว่า ตนเองก็ยังนับถือนายวิษณุอยู่ แต่ตนเองก็ต้องรักษาสิทธิของตนเองเพื่อความชอบธรรม และยืนยันไม่ได้ต้องการทะเลาะกับใคร รวมกรณีที่ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง หนึ่งในคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาติงตนเองนั้น ตนเองไม่ว่า หาก พล.ต.อ.วินัย ต้องการจะแฉก็แฉเลย แต่ต้องพูดให้หมด และเข้าใจให้ตรงประเด็นว่า ตนเองฟ้องอีกฝ่ายในข้อหาหมิ่นประมาท ส่วนอีกฝ่ายจะตรวจสอบข้อเท็จจริงพบอะไรก็ว่าไป แต่ไม่มีสิทธิวินิจฉัยคดี เพราะไม่ใช่ศาล


ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ต้องการทะเลาะกับผู้บังคับบัญชา แต่ขอถามกลับว่า ทำไมตนเองถึงถูกรังแกมาทั้งชีวิต เพราะว่าตนเองมีอายุราชการเหลือหลายปี เป็นอาวุโสลำดับที่ 1 และทำงานตรงใจประชาชนหรือไม่ ถ้าอายุราชการเหลือแค่ 1 ปี ก็คงไม่เป็นปัญหา.-414.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​

ส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอีก 300 คน

วันที่สองของปฏิบัติการขนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมียวดี ข้ามชายแดนไทย ส่งกลับประเทศอีก 300 คน รวม 2 วัน ส่งกลับแล้ว 500 คน เหลือพรุ่งนี้อีก 1 วัน

บุกทลายบ่อนทุนจีนเทากลางเมืองภูเก็ต

ตำรวจภูเก็ตบุกทลายบ่อน ‘กลุ่มจีนเทา’ กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนันชาวจีน 13 ราย พร้อมของกลางกว่า 30 รายการ พบเงินหมุนสัปดาห์เดียวกว่า 5 ล้านบาท