รวบผัวโหดฆ่าเมียฝังดินข้างบ้านนานกว่า 8 เดือน

ลพบุรี 30 มี.ค.- ผัวฆ่าเมียฝังดินไว้ข้างบ้านนานกว่า 8 เดือน ก่อนทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่กลางดึกชอบมาเคาะตรงพื้นดิน เทเหล้า ตักข้าววางตรงที่ฝังศพ จนญาติเมียสงสัยไปแจ้งตำรวจ สารภาพอ้างโมโหสติหลุด


ตำรวจ สภ.โคกตูม คุมตัวนายไพบูลย์ อายุ 58 ปี ไปชี้จุดที่ฝังร่าง น.ส.สุนันทา อายุ 47 ปี ภรรยา ไว้ที่ข้างบ้านในตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี หลังเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา น้องชาย น.ส.สุนันทา ได้เข้าแจ้งความว่าพี่สาวขาดการติดต่อหายตัวไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2566 เป็นระยะเวลาเกือบ 8 เดือนแล้ว

ตำรวจจึงลงพื้นที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้สูญหายและสามี เมื่อไปถึงพบนายไพบูลย์ เจ้าตัวมีพิรุธ วิ่งหนี ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้ และนำไปสอบสวนที่ สภ.โคกตูม เค้นสอบนานกว่า 3 ชั่วโมง จึงยอมเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าภรรยาตนเอง และนำศพฝังดินไว้ที่ข้างบ้าน ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมปีที่แล้ว จากนั้นตำรวจจึงคุมนายไพบูลย์ กลับมาที่บ้านเพื่อชี้จุดฝังร่างภรรยาดังกล่าว


จุดที่ฝังไม่มีร่องรอยการขุดคุ้ยเหลืออยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ต้องนำรถแบ็กโฮมาขุด หลุมกว้างประมาณ 80 เซนติเมตร ลึกประมาณ 1 เมตร ผ่านไปประมาณ 15 นาที ก็พบถุงผ้าห่อร่าง น.ส.สุนันทา โดยร่างเน่าเปื่อย เหลือเพียงโครงกระดูกเศษเนื้อติดอยู่เล็กน้อย ชันสูตรเบื้องต้นพบที่ศีรษะแตกเป็นรูหลายจุด มีนายไพบูลย์ ยืนให้การโดยไม่สะทกสะท้านใดๆ หลังจากชี้จุดฝังศพ ตำรวจรีบนำตัวผู้ต้องหากลับมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.โคกตูม เพราะเกรงจะถูกรุมประชาทัณฑ์

ผู้ต้องหายอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยเล่าว่า ตนเองเคยมีภรรยามาแล้วถึง 4 คน เลิกรากันไปหมด และหอบสมบัติที่มีสินสมรสจากภรรยาเก่านับแสนบาท มาอยู่กับน.ส.สุนันทา เป็นเวลากว่า 2 ปี ช่วงแรกความรักก็หวานชื่น จนระยะหลังภรรยาทำตัวเหลวไหล ชอบดื่มเหล้า ติดยาบ้า และมักหาเรื่องทะเลาะกันประจำ ซึ่งตนเองพยายามข่มใจมาตลอด จนกระทั่งวันเกิดเหตุภรรยาเอ่ยปากขอแยกทาง อ้างเพราะไม่มีเงิน จะไปหาสามีใหม่ จนทะเลาะถึงขั้นตบตีกัน น.ส.สุนันทา สู้ไม่ได้ ใช้มีด ใช้เคียว เป็นอาวุธจะทำร้ายตน พร้อมตะโกนว่า “กูจะไปมีผัวใหม่” ซ้ำๆ ซึ่งเป็นคำพูดที่แทงใจดำตน จนทนไม่ได้ จึงใช้ค้อนกระหน่ำตีที่ศีรษะภรรยาด้วยความโมโห จนภรรยาแน่นิ่งไป

หลังจากฆ่าภรรยาตายแล้ว ก็ขุดหลุมฝังร่างไว้ที่ข้างบ้าน และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พยายามถามหาภรรยาจากญาติ ทำทีออกตามหาทุกวัน ตกดึกตี 2 ตี 3 ยังนำสุรา อาหาร มานั่งกินบนจุดฝังศพภรรยา จนในที่สุดมีญาติภรรยามาแอบดู เห็นนายไพบูลย์ เคาะตรงพื้นดิน เทเหล้า ตักข้าววางที่พื้น พูดพร่ำขอโทษ เสียใจที่ทำไปโดยไม่ได้ยังคิด หากชาติหน้ามีจริง ขอมาเป็นสามีภรรยากันอีก จนเกิดความสงสัย จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ และจับกุมตัวนายไพบูลย์ได้ดังกล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เต้นฮากา

สส.เต้นฮากา ประท้วงในสภานิวซีแลนด์

ที่ประชุมสมาชิกรัฐสภานิวซีแลนด์เมื่อวานนี้ต้องระงับชั่วคราว หลังจากที่สมาชิกสภาหลายคนซึ่งเป็นชนเผ่าเมารี ได้ลุกขึ้นเต้นฮากา (haka) ขัดขวางการลงนามในกฎหมาย

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

จ่อชงหลักการเข้า คกก.กระตุ้นเศรษฐกิจ จ่ายเงินหมื่นกลุ่ม 60 ปีขึ้นไป

รมว.คลัง รับเตรียมเสนอหลักการเข้า คกก.กระตุ้นเศรษฐกิจ จ่ายเงินหมื่นคนอายุ 60 ปีขึ้นไป หลัง “ทักษิณ” เปรยบนเวทีปราศรัย จ.อุดรธานี ชี้ใช้งบไม่มาก ยืนยันไม่ทับสิทธิกลุ่มเปราะบางเฟสแรก บอกมีเฟส 2-3

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

ข่าวแนะนำ

“ยี่เป็งเชียงใหม่” คึกคัก นักท่องเที่ยวแน่น

บรรยากาศริมฝั่งลำน้ำปิง บริเวณหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ คึกคักไปด้วยชาวเชียงใหม่ รวมทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ที่มาลอยกระทงกันอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัว คู่รัก หรือบางคนฉายเดี่ยว และยังเน้นกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติเป็นหลัก

คึกคัก ลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่วัดอรุณฯ

เริ่มแล้ว งานลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่วัดอรุณราชวราราม ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมคึกคัก มีการแสดงและกิจกรรมต่างๆ มากมาย

“จิราพร” มอบทนายนำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิงอ้างชื่อรีดทรัพย์

ทนายความ “รมต.” นำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิง อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่ม “ดิไอคอน” ยืนยันไม่เคยรู้จักกัน

พะยูนตัวแรกของฤดูกาลท่องเที่ยวโผล่

นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลท่องเที่ยว 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เพิ่งพบพะยูนบริเวณหน้าเกาะลิบง จังหวัดตรัง เป็นตัวแรก สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างมาก