รัฐสภา 11 ม.ค.-“รมว.แรงงาน” ตอบกระทู้สด จ่อพิจารณาทบทวนค่าแรงขั้นต่ำ เม.ย.นี้ พร้อมเตรียมเสนอครม. จ่ายเงินเดือนผู้ลาคลอดบุตร 98 วันเต็มจำนวน ให้นายจ้าง-ส.ประกันสังคม ออกคนละ 49 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม วาระกระทู้ถามสด โดยนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล ตั้งถาม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต่อประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาล ที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง โดยเรียกร้องให้เปิดเผยผลการประชุมของคณะกรรมการพิจารณาค่าจ้างรายจังหวัด รวมถึงพิจารณาปรับคณะกรรมการไตรภาคีที่พบว่ามีฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซง หรือยุบทิ้งได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลส่งเสริมในนโยบายการมีบุตร ดังนั้นการพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำให้สามารถมีชีวิตที่มีคุณภาพเลี้ยงครอบครัวได้ ควรพิจารณาให้สอดคล้องกัน
นายพิพัฒน์ ชี้แจงว่า วิธีการคิด และคำนวณค่าแรงขั้นต่ำ 20- 30 ปีใช้ข้อมูลฐานเดิม คือ ปี 2563 – 2564 ให้อนุไตรภาคีแต่ละจังหวัดเป็นผู้นำเสนอต่อคณะกรรมการไตรภาคีของกระทรวงแรงงาน ที่มีตัวแทนลูกจ้างและนายจ้างรวมถึงฝ่ายรัฐ ทั้งนี้จากการทำงานของตนเกือบ 4 เดือน ต้องขออภัยที่ไม่สามารถทำให้มีค่าแรงขั้นต่ำได้สูงกว่าที่ประกาศและใช้ไปเมื่อ 1 ม.ค. 2567 ซึ่งในการประกาศค่าแรงขั้นต่ำจะมีอีกครั้ง ในวันปีใหม่ไทย หรือ ในวันสงกรานต์ เดือนเม.ย. นี้ และในปี 2568
“ผมไม่ขอต่อล้อต่อเถียงในเรื่องกรรมการไตรภาคี เพราะท่านคงมีความรู้มากกว่าผม และทำการบ้านมามากกว่าผม ทั้งนี้กรรมการไตรภาคีนั้นเป็นการเลือกกันเองของลูกจ้างและนายจ้าง โดยกระทรวงแรงงานก้าวก่ายไม่ได้ อย่างไรก็ดี ที่ถามถึงขั้นตอนการเลือกโ ดยไม่มีสหภาพแรงงานนั้น ผมจะขอไปสอบถามให้อีกครั้ง ผมไม่มีสิทธิ์เข้าไปร่วมการประชุมไตรภาคี เพราะจะถูกมองว่าแทรกแซงการพิจารณา แม้จะเข้าไปทีแรก เพราะแนะนำตัวเท่านั้นโดยไม่มีสิทธิหน้าที่แทรกแซง” นายพิพัฒน์ กล่าว
นายพิพัฒน์ ชี้แจงด้วยว่า ที่ผ่านมาขอให้ผ่านไป ไม่ใช่ปัดสวะ ที่ผ่านมาคงแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ต่อไปจะหารือประธานบอร์ด และที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการที่เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยต่างๆ แต่ไม่สามารถหารือกับฝ่ายนายจ้างหรือลูกจ้างได้ โดยตนจะดูและให้ความเห็นกับที่ปรึกษากรรมการ ว่าอะไรควรหรือไม่ ส่วนรายละเอียดเจาะลึก จะมุ่งเป้าไปยังกลุ่มธุรกิจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่อาชีพที่ไม่มีจะขึ้นตามอัตภาพ หรืออัตราส่วน สำหรับค่าแรง 3 จังหวัดภาคใต้ ที่อัตราสูงอาจไม่มีผู้ลงทุนในพื้นที่เพราะต้องมีค่าเสี่ยงภัย
นายพิพัฒน์ กล่าวด้วยว่าสำหรับค่าแรงของผู้มีบุตรนั้น ตนเตรียมเสนอ ครม. เร็วๆ นี้ เพื่อพิจารณาการจ่ายค่าจ้างเต็มจำนวนสำหรับผู้ที่ลาคลอดบุตร 98 วัน โดยให้นายจ้างอุดหนุนเงินเดือน 49 วัน และสำนักงานประกันสังคม จ่ายเงิน 49 วัน ซึ่งถือว่าจะได้รับเงินเดือนเต็ม ในช่วงที่ลาคลอด.-312.-สำนักข่าวไทย