โตเกียว 25 ก.ค.- รัฐบาลญี่ปุ่นจะลดอัตราการฆ่าตัวตายลงให้ได้ร้อยละ 30 ภายใน 10 ปี ด้วยการผ่านความเห็นชอบแผนการหาทางจำกัดชั่วโมงการทำงานหนักที่เป็นสาเหตุให้คนฆ่าตัวตาย
ญี่ปุ่นมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงที่สุดในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (จี7) แต่ละปีมีคนฆ่าตัวตายมากกว่า 20,000 คน คิดเป็นอัตราส่วน 18.5 ต่อประชากรทุก 100,000 คนในปี 2558 รัฐบาลต้องการให้ตัวเลขนี้ลดลงต่ำกว่า 13.0 ในปี 2568 ญี่ปุ่นเคยมีอัตราฆ่าตัวตายสูงถึง 34,427 คนในปี 2546 แต่ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือ 21,897 คนเมื่อปีก่อน รัฐบาลระบุว่า เป็นผลจากมาตรการที่ดำเนินการทั่วประเทศตามแผนที่เริ่มตั้งแต่ปี 2550 และมีการทบทวนทุก 5 ปี ล่าสุดรัฐบาลได้ผ่านความเห็นชอบนี้ในวันนี้ ย้ำว่าจะเดินหน้าผลักดันมาตรการลดการฆ่าตัวตายอันเกิดจากการทำงาน ด้วยการลดชั่วโมงทำงานที่หนักเกินไปและป้องกันไม่ให้นายจ้างคุกคามคนทำงาน
รัฐบาลญี่ปุ่นมุ่งหาทางแก้ปัญหาคนฆ่าตัวตายเพราะการทำงาน หลังเกิดกรณีพนักงานสตรีวัย 24 ปีบริษัทโฆษณาใหญ่ที่สุดของประเทศฆ่าตัวตายในปี 2558 เพราะทำงานล่วงเวลามากกว่าเดือนละ 100 ชั่วโมง จนกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วประเทศ รัฐบาลต้องออกมาตรการขอให้นายจ้างจำกัดการทำงานล่วงเวลาไม่ให้เกินเดือนละ 100 ชั่วโมง แต่มีเสียงวิจารณ์ว่ายังคงเป็นชั่วโมงที่มากเกินไป ล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้กระทรวงแรงงานได้ประกาศรายชื่อบริษัทกว่า 300 แห่งทั่วประเทศว่าให้พนักงานทำงานล่วงเวลาอย่างผิดกฎหมายและละเมิดระเบียบการทำงานอื่น ๆ .- สำนักข่าวไทย