“พิธา” มั่นใจ ไอทีวีไม่เป็นสื่อแล้ว บอกเป็นโอกาสดีได้ชี้แจง

ศาลรัฐธรรมนูญ 20 ธ.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญเริ่มไต่สวนคดีสถานะ “พิธา” มั่นใจไอทีวีไม่ได้เป็นสื่อแล้ว เป็นโอกาสดีที่จะได้ชี้แจง ด้านด้อมส้มแห่ให้กำลังใจ


ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานบุคคลในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา101(6)  ประกอบมาตรา98(3) หรือไม่ จากกรณีเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ และศาลฯได้มีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณา  รวมถึงสั่งให้นายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.นับแต่วันที่ 19 ก.ค.66  จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย

โดยก่อนหน้านี้นายพิธา ได้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พร้อมบัญชีระบุพยานเอกสาร พยานบุคคล พยานวัตถุ ฉบับลงวันที่ 2 ต.ค. 66 และบัญชีระบุพยานบุคคลเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 ฉบับลงวันที่ 18 ต.ค. 66 รวมถึงขอขยายระยะเวลาจัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นล่วงหน้าโดยศาลฯกำหนดให้มีการจัดส่งภายในวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. พร้อมคณะในฐานะตัวแทนของ กกต.ได้เดินทางมาร่วมการไต่สวน โดยไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ ก่อนที่นายพิธา และคณะ จะเดินทางมาพร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ   

นายพิธา ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมการไต่สวนว่า วันนี้ได้ถือโอกาสสื่อสารข้อเท็จจริง และมั่นใจในข้อเท็จจริง รวมถึงหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งประเด็นรายละเอียดของการชี้แจง ขอเก็บไว้ชี้แจงในศาลรัฐธรรมนูญ    

“แต่สิ่งที่ยืนยันข้อเท็จจริงต่อเรื่องที่มีการกล่าวหาคือ บริษัทไอทีวี ไม่ได้เป็นสื่อแล้ว ไม่ได้ประกอบกิจการมาตั้งแต่ปี  50 และสื่อมวลชนก็รายงานว่ารายได้ทั้งหมดมาจากดอกเบี้ยในการลงทุน ดังนั้น เมื่อเทียบกับระบบยุติธรรมคำพิพากษาในอดีต ก็ยืนยันได้ว่า ไอทีวีไม่ได้เป็นสื่อ  ซึ่งตนพร้อมที่จะตอบคำถามอย่างละเอียดทั้งในแง่มุมของตัวบริษัทไอทีวีเอง และอาจจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของตนก็ได้ทบทวนข้อเท็จจริง แม้ว่าจะนานมาแล้วถึง 16 ปี ตั้งแต่คุณพ่อเสียเมื่อปี 49  และไอทีวีหยุดประกอบกิจการเมื่อปี 50 ซึ่งก็มั่นใจว่าจะใช้โอกาสนี้ในการพูดเป็นครั้งแรก และถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ซึ่งก็รอวันนี้มานาน” นายพิธา กล่าว


เมื่อถามถึงกระเป๋าเดินทาง 2 ใบเป็นหลักฐานที่เตรียมมาชี้แจงใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ในชั้นศาลก็จะมีหมายที่ทางศาลเรียก  คือมีทั้งผู้ร้อง ผู้ถูกร้องและศาล และวัตถุพยานทั้งหลาย ขณะนี้ตนไม่มีข้อกังวลใดๆ ดีใจที่ได้มีโอกาสพูดและสื่อสารในมุมของเรา แน่นอนว่ากกต.ก็มีหน้าที่ของ กกต. ส่วนของเราถ้ามีข้อสงสัยตรงไหนก็ยินดีที่จะตอบให้สิ้นข้อสงสัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการไต่สวนพยานในวันนี้(20 ธ.ค.) แม้ศาลฯจะอนุญาตให้เฉพาะผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม และไม่ได้มีการถ่ายทอดการไต่สวนผ่านโทรทัศน์วงจรปิด  แต่พบว่าบรรยากาศที่หน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่เช้า มีข้าราชการที่ทำงานอยู่ภายในอาคารและบริเวณโดยรอบสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงกลุ่มมวลชนแฟนคลับของพรรคก้าวไกลจำนวนหนึ่ง ทยอยเดินทางมารอมอบดอกไม้ให้กำลังใจนายพิธา พร้อมภาพนายพิธา บนแผ่นไวนิลขนาดเท่าตัวจริง มาชูให้กำลังใจ และมีการชูป้ายข้อความเขียนด้วยลายมือระบุว่า “เรียกร้องให้ กกต. ถ่ายทอดสดผ่าน itv” และ “itv อยู่ไหน อยากออกไอทีวี” พร้อมทั้งกล่าวว่า อยากให้ศาลสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าถ้าเรามีปัญหาอะไรก็สามารถพึ่งพาศาลได้  ขณะที่การรักษาความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแผงเหล็กมากั้นเท่านั้น.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว