นนทบุรี 11 ธ.ค.- กรมทรัพย์สินทางปัญญา จับมือ The Cloud สื่อออนไลน์แถวหน้าที่มุ่งนำเสนออัตลักษณ์และวัฒนธรรมของชุมชนท้องถิ่น ชวนร่วมงาน THAILAND RICE FEST 2023 และ THAILAND COFFEE FEST YEAR END 2023 คัดสรรสุดยอดข้าวและกาแฟ GI ทั่วไทย มาไว้ที่บูธ GI Pavilion ให้ทุกท่านได้ลิ้มลองรสชาติความอร่อย เพิ่มทางเลือก ในการบริโภคสินค้า พร้อมส่งเสริมโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการ GI ไทย ระหว่างวันที่ 14 – 17 ธันวาคม 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 6 บูธ H1
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาเปิดเผยว่า สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI นับเป็น Soft Power ที่สำคัญอย่างหนึ่งของไทย โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่ม “ข้าว” และ “กาแฟ” ที่สร้างชื่อเสียง สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ด้วยคุณภาพ เอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ตลอดจนภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น ส่งผลให้สินค้า GI ไทยดังกล่าวเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ได้รับจด GI ในหลายประเทศ อาทิ สหภาพยุโรป ให้ความคุ้มครองสินค้าข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง กาแฟดอยตุง และกาแฟดอยช้าง อินโดนีเซีย ให้ความคุ้มครองสินค้าข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ และข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ญี่ปุ่น ให้ความคุ้มครองสินค้ากาแฟดอยตุง และกาแฟดอยช้าง และกัมพูชา ให้ความคุ้มครองสินค้ากาแฟดอยตุง
สำหรับความร่วมมือระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญา กับ The Cloud ครั้งนี้ เป็นโอกาสดีที่จะทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้า GI ไทยได้ง่ายขึ้น โดยมีการคัดสรรสุดยอดข้าวและกาแฟ GI จากทั่วประเทศ ประกอบด้วย สินค้าในกลุ่มข้าว 6 รายการ ได้แก่ (1) ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ (2) ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง (3) ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี (4) ข้าวก่ำล้านนา (5) ข้าวไร่ดอกข่าพังงา และ (6) ข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธุ์ สินค้าในกลุ่มกาแฟ 4 รายการ ได้แก่ (1) กาแฟดอยตุง (2) กาแฟดอยช้าง (3) กาแฟเทพเสด็จ และ (4) กาแฟเมืองกระบี่ เข้าร่วมจัดแสดงในงาน THAILAND RICE FEST 2023 และ THAILAND COFFEE FEST YEAR END 2023 ซึ่งเป็นมหกรรมที่รวบรวมพันธุ์ข้าวและพันธุ์กาแฟคุณภาพ เพื่อให้ผู้ซื้อ ผู้ที่มาเยี่ยมชมงาน ได้สัมผัสรสชาติข้าวและกาแฟอย่างจุใจ อีกทั้งยังเพิ่มทางเลือกในการสั่งซื้อสินค้า GI ผ่านรายการ live สดบนแฟลตฟอร์ม Lazada ด้วยอีกทางหนึ่ง เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการ นำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนในท้องถิ่นให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม การบริโภคข้าวและกาแฟถือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทยอยู่แล้ว เทศกาลดังกล่าวจึงช่วยให้ผู้บริโภคได้รู้จักกับสินค้าสายพันธุ์ใหม่ๆ ช่วยเพิ่มทางเลือกในการบริโภคข้าวและกาแฟในแต่ละวัน นอกจากนี้ กิจกรรมภายในงานยังสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของสินค้า GI ไทย ว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากชุมชนท้องถิ่นที่มีคุณภาพและน่าสนใจไม่แพ้สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถมาร่วมอุดหนุนและเป็นกำลังใจให้กับผู้ประกอบการ GI ได้ที่ GI Pavilion บูธ H1 ฮอลล์ 6 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 14 – 17 ธันวาคม 2566 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Facebook : GI Thailand.-514-สำนักข่าวไทย