5 ธ.ค.- เปิดประวัติ “หมอกฤตไท” เจ้าของเพจ สู้ดิวะ หลังต่อสู้กับมะเร็งปอดนานนับปี จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต พ่อโพสต์แจ้งข่าวเศร้าในวันพ่อ “เดินทางปลอดภัยครับ ลูกชาย”
วันพ่อแห่งชาติปีนี้ หลายคนได้ใช้เวลาอยู่กับพ่ออย่างมีความสุขและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่สำหรับคุณพ่อไทภัทร ธนสมบัติกุล พ่อหมอกฤตไท เจ้าของเพจสู้ดิวะ ที่ต้องสู้กับโรคมะเร็งปอด จนวาระสุดท้าย ได้โพสต์ภาพการจากไปของลูกชายเมื่อเวลา 10.59 น. วันนี้ พร้อมข้อความว่า “เดินทางปลอดภัยครับ ลูกชาย” สร้างความสะเทือนใจให้กับแฟนเพจสู้ดิวะ ของหมอกฤตไท อย่างมาก
วันนี้ เฟซบุ๊ก ไทภัทร ธนสมบัติกุล คุณพ่อหมอกฤตไท ได้โพสต์ภาพลูกชายซึ่งจากไปเมื่อเวลา 10.59 น. พร้อมข้อความว่า เดินทางปลอดภัยครับ ลูกชาย #สู้ดิวะ หลังจากนั้นมีญาติ เพื่อน ผู้ติดตามอาการป่วยของหมอกฤติไท สู้ดิวะ เข้าไปโพสต์แสดงความเสียใจกับครอบครัวกันจำนวนมาก พร้อมกับแชร์เรื่องราวออกไปอย่างรวดเร็ว
ซึ่งได้รับการยืนยันว่า หมอกฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ 29 ปี อาจารย์แพทย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ป่วยเป็นมะเร็งปอด ได้เสียชีวิตแล้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ด้วยอาการสงบ คาดว่ามีญาติใกล้ชิดอยู่ด้วยตอนวาระสุดท้ายของชีวิต
เบื้องต้นคนที่ใกล้ชิด เปิดเผยว่า ตอนนี้ร่างของหมอกฤตไท ยังอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ยังอยู่ในขั้นตอนการทำเอกสารแจ้งการเสียชีวิต เพื่อที่ญาติจะได้นำร่างของหมอกฤตไทไปประกอบพิธีทางศาสนา มีรายงานว่าญาติยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปก่อนวัยอันควรนี้ ทางญาติขอความเป็นส่วนตัวก่อนที่จะดำเนินการเรื่องของการนำร่างของหมอกฤตไทออกจากโรงพยาบาล โดยยังไม่เปิดเผยจะนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ไหน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา หมอกฤตไท อัปเดตอาการป่วย ว่า ผมคงอยู่ได้อีกไม่นานแล้วครับ ใครมีอะไรอยากพูดอยากบอกผมเชิญได้เลยครับ ผมน่าจะไปช่วงกลางเดือนหน้า ไว้เจอกันใหม่นะครับ ณ ตอนนี้ผมพิมพ์ได้เท่านี้ ก็เอาละครับขอบคุณสำหรับทุกอย่างตลอดช่วง 30 ที่ผ่านมาครับ ขอโทษถ้าผมทำให้ใครไม่พอใจครับ
ก่อนหน้านี้ คนบนโลกออนไลน์ รู้จัก “หมอไท” ที่บอกเล่าอาการป่วยมะเร็งปอดของตัวเอง ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Krittai Tanasombatkul และ สู้ดิวะ เมื่อ 10 พ.ย.2565 ในวัย 28 ปี โดยเป็นคนที่ชอบออกกำลังกาย แต่กลับป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4 โดยทำให้ผู้คนในสังคมรู้จักและหันมาใส่ใจเรื่องของโรคมะเร็ง ซึ่งในเดือนตุลาคม 2565 นพ.กฤตไท สังเกต ความผิดปกติของอาการไอของตัวเอง จึงเข้ารับการตรวจ และพบว่ากำลังป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4 ไม่สามารถผ่าตัดรักษาให้หายขาดได้ ปัจจัยเดียวที่เป็นไปได้ คือ ภาวะฝุ่น PM2.5 ที่รุนแรงใน จ.เชียงใหม่ นอกจากเพจ “สู้ดิวะ” แล้ว หมอไทยังทำตามความตั้งใจสำเร็จ คือ ถ่ายทอดเรื่องราวมากมายผ่านหนังสือ “สู้ดิวะ” จัดพิมพ์ปี 2566 ซึ่งมียอดขายถล่มทลาย
ปัจจุบันหมอกฤตไท อายุ 29 ปี ตั้งแต่ประถม ถึงมัธยมศึกษา หมอจบสวนกุหลาบวิทยาลัย แนะนำตัวเองเสมอว่า ผม OSK 131 หมอสอบติดคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รุ่น 56 และจบใน 6 ปีที่กำหนด และตัดสินใจเรียนต่อเฉพาะทางเวชศาสตร์ครอบครัวต่ออีก 3 ปี แต่เรียนจบหมอไม่ได้ปฏิบัติงานในฐานะหมอแฟมเมด แต่ย้ายมาทำงานสายระบาดวิทยาคลินิก ระหว่างที่เรียนเฉพาะทาง หมอศึกษา สาขาเฉพาะทางระบาดวิทยาคลินิก จากนั้นศึกษาปริญญาโท วิทยาการข้อมูล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (Data Science) อีกใบพร้อมกัน
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 66 มีพิธีวิวาห์งานแต่งเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น กับคุณพีม แฟนสาว ซึ่งคุณพีมได้เผยความรู้สึกว่า หมอไทจะพูดตลอดว่าเธอโชคร้ายหรือเปล่า แต่เธอนั้นรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากจริง ๆ อาจจะโชคร้ายแค่ไม่รู้ว่าจะได้อยู่ด้วยกันถึงวันไหน แต่สิ่งที่เหลือคือความโชคดีที่ได้รู้จักกับหมอกฤตไท ไม่ว่าเรื่องจะจบอย่างไร ตอนนี้เธอโชคดีที่สุดแล้ว.–สำนักข่าวไทย