กทม. 20 พ.ย.-เปิดตู้เซฟนักธุรกิจชาวไต้หวัน หลังถูกฆาตกรรมในโรงแรมหรูย่านบางนา พบธนบัตรปลอมสกุลเงินดอลลาร์เพียบ
คดีชายชาวไต้หวันถูกฆาตกรรมที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยอุดมสุข 17 สุขุมวิท 103 ต่อมาตำรวจได้จับกุมคนร้ายเป็นชาวต่างชาติ 2 ราย คือชาวเมียนมา และชาวแคเมอรูน ยังเหลืออีก 2 คน ที่ยังต้องตามจับกุมมาดำเนินคดี ความคืบหน้าล่าสุด พลตำรวจตรี วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินทางมา ที่ สน.บางนา เพื่อร่วมเปิดตู้เซฟจำนวน 1 ตู้ พบธนบัตรปลอมสกุลเงินดอลลาร์ พร้อมกับกระดาษสีเขียวและสีดำที่ตัดโดยมีขนาดเท่ากับธนบัตร และอุปกรณ์อื่นๆที่คาดว่าน่าจะเป็นอุปกรณ์ในการปลอมธนบัตร
ขณะเดียวกัน ญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ในการเปิดตู้เซฟด้วยเหมือนกัน แต่ปฏิเสธในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างในการให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญาติของผู้เสียชีวิตจะติดต่อขอรับศพผู้เสียชีวิตไปทำพิธีทางศาสนาที่วัดบางนานอก ก่อนจะนำกระดูกกลับไปที่ประเทศไต้หวัน
ด้าน พลตำรวจตรี วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ออกมาเปิดเผยว่า วันนี้สามารถเปิดตู้เซฟได้ทั้ง 2 ตู้ โดยตู้แรกพบเงินปลอม สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอยู่เป็นจำนวนมาก และยังพบกระดาษสีขาวและสีดำ โดยตัดให้มีขนาดเท่ากับธนบัตรปลอม แต่เนื้อผิวสัมผัสของธนบัตรปลอมนั้น ค่อนข้างมีความแตกต่างจากธนบัตรจริงอย่างมาก ดูหลังจากนี้จะนำเครื่องรับธนบัตรเข้ามาเพื่อคำนวณว่าธนบัตรปลอมนั้นมีกี่ใบและมีมูลค่าเท่าใด ส่วนอีกตู้เป็นตู้เซฟว่างเปล่า ซึ่งลักษณะดังกล่าวนั้น มีความคล้ายคลึงกับแก๊ง Black money จึงสันนิษฐานไว้ว่าผู้เสียชีวิตอาจมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งนี้ แต่ก็ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง
อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องจับกุมผู้ต้องหาอีก 2 คนที่หลบหนีอยู่ให้ได้เสียก่อน ถึงจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ระหว่างนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี และจากการสืบสวนทราบว่า หญิงคนไทยยังหลบอยู่ภายในประเทศ
ขณะที่น้องสาวของผู้เสียชีวิต ให้การกับพนักงานสอบสวนว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าธนบัตรปลอมจำนวนมากมาอยู่ในตู้เซฟของพี่ชายได้อย่างไร จึงอยากให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายทั้งหมดมาให้ได้ นอกจากนี้ยังอยากให้ตำรวจตามหาโทรศัพท์และแท็บเล็ตของผู้เสียชีวิตที่หายไปกลับมาให้ได้.-สำนักข่าวไทย