รพ.ธรรมศาสตร์รังสิต 6 พ.ย. – “กัญจนา” รุดเยี่ยม เด็ก 3 ขวบ ถูกทำร้ายร่างกาย ผ่าตัดปลอดภัย ย้ำ เด็กไม่ใช่สมบัติของพ่อแม่ ที่จะทำร้าย-ทุบตี วอน เพื่อนบ้านเป็นหูเป็นตา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วย น.ส.ซาราห์ บินเย๊าะ ที่ปรึกษาวิชาการพัฒนาสังคม นางดุสิตา เชาวน์เลิศ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี พร้อมทีม พม. หนึ่งเดียว ลงพื้นที่เยี่ยมเด็กชาย 3 ขวบ ถูกทำร้ายร่างกายรุนแรง ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
น.ส.กัญจนา เปิดเผยว่า คุณหมอผ่าตัดน้องเรียบร้อยและปลอดภัยดี ส่วนเรื่องทางคดีและอาการบาดเจ็บของน้องให้เป็นหน้าที่ของแพทย์และตำรวจว่าจะสรุปอย่างไร ซึ่งคุณหมอบอกว่าเมื่อครบจำนวนชั่วโมงหลังผ่าตัด แพทย์ก็จะให้อาหารทางสายยาง แพทย์ที่ห้องไอซียูบอกว่าไม่น่ามีข้อกังวลใด แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นเคสของเด็กเล็กมาก และมีความเจ็บป่วยอย่างมาก ทำให้สะเทือนความรู้สึกตนเป็นอย่างมาก จึงต้องขอมาเยี่ยม
น.ส.กัญจนา กล่าวว่า ขอย้ำว่าทางกระทรวง พม. จะทำงานและดูแลอนาคตของน้องไม่ว่าจะรูปแบบใด จะให้ปลอดภัยและมีอนาคตที่ดีที่สุด พม.ต้องพยายามทำงานกับครอบครัวเพื่อดูแลความปลอดภัยและไม่ให้เกิดสภาพแบบนี้ขึ้นมาอีก ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน จะรับเรื่องราวร้องทุกข์ต่างๆ จากสายด่วน 1300 และแอปพลิเคชั่นของกระทรวง เพื่อเร่งรัดประสานงานเพื่อช่วยตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
“กระทรวงพม.ต้องทำงานร่วมกับครอบครัวของน้อง เพื่อให้ชัดเจนว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ซึ่งดีที่สุดคือการให้น้องกลับไปอยู่กับครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวฝ่ายไหน ซึ่งกรณีของน้องนี้ยังดีที่มีครอบครัวที่จะรองรับ เพราะบางกรณีไม่มีครอบครัวรองรับ จึงต้องหาครอบครัวอุปถัมภ์ ตอนนี้รอความชัดเจนของสาเหตุก่อนว่าเกิดจากอะไรแล้วกระทรวงพม.จะได้ทำงานต่อว่าน้องจะกลับคืนสู่ครอบครัวไหนอย่างไร” น.ส.กัญจนา กล่าว
น.ส.กัญจนา กล่าวว่า หากเพื่อนบ้านเห็นถึงความผิดปกติ โดยที่ครอบครัวไม่นำเด็กส่งโรงพยาบาล ขอให้รีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือสายด่วน 1300 ของพม. เพื่อสามารถนำเด็กเข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างรวดเร็วทันท่วงทีไม่บาดเจ็บมาก หน่วยงานของภาครัฐต้องเป็นที่พึ่งของสังคมให้ได้ ไม่เช่นนั้นผู้ที่เดือดร้อนมักจะวิ่งไปหาภาคเอกชน บุคคล หรือหน่วยงานอื่น ทำให้ถูกชี้ไปว่าหน่วยงานภาครัฐพึ่งไม่ได้หรืออย่างไร
น.ส.กัญจนา กล่าวว่า จากนี้ไป พม.จะเข้มแข็งเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พม.จะยกระดับเป็นศูนย์รับเรื่องที่มีประสิทธิภาพ เมื่อรับรู้จะจัดการกับปัญหาทันที ซึ่ งโดยปกติกระทรวงพม.ทำอยู่แล้วเพียงแต่ขาดการสื่อสารกับประชาชน ซึ่งต้นทางของปัญหาที่จะต้องได้รับการแก้ไข คือปัญหาของครอบครัว ปัญหาของสังคม เช่น การไม่พร้อมมีบุตร ปัญหายาเสพติด ทำจึงต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของชุมชน และพม.เองก็มีศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ ดังนั้นต้องอาศัยหน่วยงานเหล่านี้สร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัว
“หากครอบครัวไหนไม่พร้อมมีลูก อย่ามี เพราะเด็กคนหนึ่งก็มีชีวิต มีความรู้สึก ขอฝากทุก ๆ ครอบครัวว่า อย่าคิดว่าเด็กเป็นสมบัติของครอบครัว แล้วคุณจะทำอะไรเขาก็ได้ เพราะไม่ได้ เด็กคือหนึ่งชีวิต หากคุณทำร้ายเขา คุณมีความผิด เขาไม่ใช่สมบัติของพ่อแม่ ที่คุณจะทุบตีหรือทำร้ายได้” น.ส.กัญจนา กล่าว.-สำนักข่าวไทย