กรมอุตุฯ เตรียมประกาศเข้าสู่ฤดูหนาว 66 ต้นสัปดาห์หน้า

กรุงเทพฯ 28 ต.ค. – กรมอุตุนิยมวิทยา เตรียมประกาศเข้าสู่ฤดูหนาวปี 2566 ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า โดยเป็นการเริ่มต้นช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีความแปรปรวนของสภาพอากาศ ทำให้ยังไม่ครบเกณฑ์ของการพิจารณาเข้าสู่ฤดูหนาว แต่ลมหนาวจะพัดปกคลุมชัดเจนตั้งแต่ 30 ต.ค. เป็นต้นไป


นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศกลาง กองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ประเทศไทยตอนบนยังมีฝนจนถึงวันพรุ่งนี้ (29 ต.ค.66) เนื่องจากมวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมาปกคลุมมีกำลังอ่อนลง ทิศทางลมเริ่มแปรปรวนและมีกำลังอ่อนลง โดยมีลมตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้พัดเสริมเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล ความชื้นสูง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนและฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ส่วนใหญ่ยังเป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง ขอให้ประชาชนระมัดระวังสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายฤดู เช้าอากาศเย็น กลางวันอากาศร้อน ตอนเย็นมีฝน

ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม – 6 พฤศจิกายน 2566 มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกจะเริ่มแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลมหนาวจะเริ่มกลับมาพัดอีกครั้ง สัญญาณการเริ่มต้นฤดูหนาวเริ่มชัดขึ้น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศเย็นลง โดยจะมีฝนและฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกิดขึ้นได้ช่วงแรกๆ ที่มวลอากาศเย็นแผ่ลงมา หลังจากนั้นฝนจะเริ่มน้อยลง


ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าจะประกาศเข้าสู่ฤดูหนาวปี 2566 ได้ในต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นการเริ่มต้นฤดูหนาวช้ากว่าค่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน และมีปัจจัยจากสภาวะเอลนีโญ ส่งผลให้ในช่วงกลางเดือนตุลาคม ยังมีสภาพอากาศไม่ครบเกณฑ์ 3 ประการที่จะพิจารณาประกาศเข้าสู่ฤดูหนาว

มวิ

สำหรับเกณฑ์การพิจารณาการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย 3 ประการ มีดังนี้

  1. อุณหภูมิต่ำสุดบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์อากาศหนาวเย็นเกือบทั่วไป โดยอุณหภูมิต่ำสุดน้อยกว่า 23.0 องศาเซลเซียส อย่างต่อเนื่อง
  2. ลมระดับล่าง ที่ความสูงประมาณ 100-3,500 เมตร เป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือ หรือลมตะวันออก ส่วนลมระดับบน ที่ความสูงประมาณ 5000 เมตรขึ้นไป เป็นลมฝ่ายตะวันตก
  3. ปริมาณและการกระจายของฝนบริเวณประเทศไทยตอนบนเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง

นอกจากฤดูหนาวปีนี้จะเริ่มต้นช้า สภาพอากาศยังหนาวน้อยกว่าค่าเฉลี่ยปกติ โดยคาดการณ์ว่า อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยบริเวณประเทศไทยตอนบน ประมาณ 21-22 องศาเซลเซียส โดยค่าปกติอยู่ที่ 19.9 องศาเซลเซียส ดังนั้นจึงสูงกว่าค่าปกติประมาณ 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับฤดูหนาวปี 2565 ปีนี้อากาศจะหนาวเย็นน้อยกว่าปีที่ผ่านมา โดยอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยปี 2565 อยู่ที่ 20.8 องศาเซลเซียส


สำหรับอุณหภูมิต่ำที่สุดประมาณ 9-10 องศาเซลเซียส ส่วนมากจะอยู่ตอนบนของประเทศ ทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนอุณหภูมิต่ำที่สุดบริเวณกรุงเทพมหานคร 17-18 องศาเซลเซียส และปริมณฑล 15-16 องศาเซลเซียส

ช่วงเวลาที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุด ประมาณต้นเดือนธันวาคม 2566 ถึงปลายเดือนมกราคม 2567

ทั้งนี้ ยอดดอยและยอดภู รวมทั้งเทือกเขา จะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง โดยฤดูหนาวจะสิ้นสุดประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2567. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

เปิดปมสังหารยกครัว 4 ศพ แค้นชู้สาว

เปิดปมเหตุสลดฆ่ายกครัว 3 ศพ ก่อนผู้ก่อเหตุยิงตัวเองเป็นศพที่ 4 ใน จ.สมุทรปราการ พบข้อมูลว่าความแค้นครั้งนี้มาจากเรื่องชู้สาว แต่ลูกชายของผู้ตายยังไม่เชื่อว่าแม่มีความสัมพันธ์กับมือปืน แต่ยอมรับมือปืนให้เงินแม่ใช้ทุกวัน

ศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” ชี้พฤติการณ์ร้ายเเรง

ทนายเผยศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” เพราะพฤติการณ์ร้ายเเรง เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกัน ด้าน “แม่สามารถ” วอนผู้มีอำนาจอย่าเอาความลูกชายตน ลั่นหลังจากนี้จะสู้เพื่อความยุติธรรม