สำนักข่าวไทย 16 ส.ค. – เครือข่ายองค์กรงดเหล้า ท้วง สส.ก้าวไกล อยากแก้ กม.เหล้าโพสต์ภาพดื่มได้ แท้จริงใครจะได้ประโยชน์ ย้ำกฎหมายแก้ได้ แต่ตอนนี้ต้องทำตามกฎ ส่วนเรื่องแก้กฎหมายขอให้เอาเรื่องข้อมูลทางวิทยาศาสตร์สุขภาพมาพูดกัน และผลการขับเคลื่อนงดเหล้า ล้วนได้ผลจริงทั้งลดอุบัติเหตุบนถนน และสุขภาพก็ดีขึ้น
นายธีระ วัชรปราณี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า สสส. กล่าวถึงกรณีนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเตรียมผลักดันให้เกิดการแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้สามารถโพสต์ภาพการดื่ม ว่า เดิมกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮล์ หรือแม้แต่กฎหมายควบคุมยาสูบ เป็นการนำเรื่องวิทยาศาสตร์ให้เชิงสุขภาพเข้ามาจัดทำในรูปของกฎหมาย เข้ามาควบคุมดูแล สารเสพติดที่ถูกกฎหมาย อย่างเหล้า และบุหรี่ โดยตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ม.32 ระบุ “ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือแสดงเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม การโฆษณาหรือการประชาสัมพันธ์ใดๆ โดยผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทให้กระทำได้เฉพาะการให้ข้อมูลข่าวสาร และความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคม โดยไม่มีการปรากฏภาพของสินค้า หรือบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น เว้นแต่เป็นการปรากกของภาพสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสัญลักษณ์ ของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นเท่านั้น” ก็ไม่ได้มีการห้ามดื่ม และไม่ได้ห้ามการโฆษณาแต่จำกัดเรื่องการโฆษณา ทั้งนี้ เพื่อหวังควบคุมทุนขนาดใหญ่มากกว่า ซึ่งการแก้กฎหมาย อยากให้กลับไปคิดว่า แท้จริงแล้วใครกันแน่ที่จะได้ประโยชน์ พร้อมยกตัวอย่างที่ผ่านมาว่า มีดาราศิลปิน หลายคนเพียงแค่ถ่ายภาพกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และโพสต์ลงเฟซบุ๊กของตัวเอง ท้ายสุดก็พบว่ามีความเชื่อมโยงกับบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ ทำให้ต้องได้รับโทษปรับ
นายธีระ กล่าวว่าการกฎหมายควบคุมเรื่องของการโพสต์ ภาพเครื่องดื่ม หรือการชักชวนให้ดื่ม เพราะมีผลการศึกษาวิจัยชัดเจนว่า ส่งผลให้เกิดการดื่มมากขึ้น และถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องระมัดระวัง และต้องใช้กระบวนพิสูจน์เรื่องของเจตนาว่าการโพสต์นั้นเพื่ออะไร มีเจตนาบริสุทธิ์หรือไม่ ส่วนการที่ สส.พรรคก้าวไกล หนุนให้เกิดการแก้ไขกฎหมายนั้น เข้าใจว่า เรื่องสุราพื้นบ้านเป็นนโยบายและบทบาทของพรรค แต่ก็ยังมีกรอบกฎหมายอยู่ หากอยากแก้ก็ทำได้ แต่ต้องทำบนพื้นฐานของข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และข้อเท็จจริง และในขณะนี้ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย พร้อมยอมรับว่ากังวลกับเรื่องความเห็นต่าง และการเปลี่ยนแปลงของคนรุ่นใหม่ที่มีหัวก้าวหน้า แต่อยากให้เข้าใจเรื่องการขับเคลื่อนงานขององค์กรงดเหล้า ไม่ว่าจะเป็น งดเหล้าเข้าพรรษา หรือความกังวลเรื่องกัญชา ว่าการดำเนินการทุกอย่างมีสัมฤทธิ์ผลเชิงประจักษ์ว่าช่วยลดปัญหาจากสุราได้จริงทั้งทำ ทั้งเรื่องสุขภาพ และอุบัติเหตุบนถนน. -สำนักข่าวไทย