21 ก.ค. – สืบนครบาล-PCT5 รวบ “เจ้าของร้านสังฆภัณฑ์ เคยบวช 11 พรรษา กลางตลาดโต้งรุ่ง หลอกขายเครื่องสังฆภัณฑ์ทุกชนิด มีลูกค้าหลงเชื่อสัปดาห์ละ 3-4 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 10 ล้านบาท
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนแก่ประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 ได้ออกลาดตระเวนออนไลน์จนพบความเดือดร้อนของพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนจำนวนมากที่ถูกคนร้ายใช้ เพจเฟซบุ๊กชื่อบัญชี “หจก.เพชรเจริญสังฆภัณฑ์ ปลีกส่ง”, “เพชรเจริญสังฆภัณฑ์” และ “หจก.เพชรเจริญสังฆภัณฑ์” โพสต์หลอกขายเครื่องสังฆภัณฑ์ทุกชนิด ตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักสามหมื่น เมื่อได้เงินโอนจ่ายจากลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นพระสงฆ์วัดต่างๆ ทั่วประเทศ และพุทธศาสนิกชน ก็จะนิ่งเงียบและบล็อกการติดต่อ สร้างความเดือดร้อนให้กับพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
วานนี้ (20 ก.ค.) กำลังเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม นายวรากร อายุ 46 ปี ในพื้นที่ อำเภอทรายทองวัฒนา จังหวัดกำแพงเพชร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ 264/2566 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยการหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณตลาดโต้รุ่ง ใกล้แยกพังโคน ถนนนิตโย ตำบลพังโคน อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความพยายามเฝ้าสืบสวนแกะรอยเฝ้าจุดติดตามจนพบผู้ต้องหาขณะขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากสถานที่หลบซ่อน ก่อนจะสะกดรอยติดตามและจับกุมได้กลางตลาดโต้รุ่งอำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร
จากการตรวจสอบข้อมูลในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ณ ปัจจุบัน นายวรากร หรือเพชร คงอุทิศ มีหมายจับที่ต้องการตัวเพื่อดำเนินคดี จำนวน 5 หมายจับ ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าช่วงเด็กและวัยรุ่น ตนบวชเรียนถึง 11 พรรษา และศึกษาจนจบชั้นปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งหนึ่ง เมื่อศึกษาจนจบชั้นปริญญาตรี ได้สึกและออกมาประกอบอาชีพสำนักพิมพ์เกี่ยวกับหนังสือพระแห่งหนึ่งประมาณ 1 ปี จากนั้นย้ายมาทำงานที่สื่อมวลชนช่องหนึ่ง ทำหน้าที่ผู้ช่วยโปรดิวเซอร์เขียนสคลิปข่าว ก่อนจะเลื่อนเป็นโปรดิวเซอร์ข่าวเกี่ยวกับสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ประมาณ 3 ปี จนช่วงปี 2561 ได้ลาออกมาเปิดร้านสังฆภัณฑ์ ชื่อร้าน ห้างหุ่นส่วนจำกัดเพชรเจริญสังฆภัณฑ์ มีสถานที่ตั้งร้านอยู่พื้นที่หนองแขม กรุงเทพมหานคร ขายทั้งหน้าร้านและผ่านโซเชียล สั่งจริง ส่งจริง จนเมื่อช่วงปี 2563 เริ่มมีปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน ซ้ำยังมาประสบปัญหาช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้เริ่มโกงไม่ส่งสินค้าแก่ลูกค้าทั้งพระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนที่สั่ง เมื่อรู้ว่ามีผู้เสียหายจำนวนมากดำเนินคดี ได้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่จังหวัดสกลนคร โดยหลบมาเช่าบ้านพัก และทำธุรกิจขายอะไหล่รถยนต์มือสองร่วมกับเพื่อน และยังคงโพสต์หลอกขายเครื่องสังฆภัณฑ์อยู่อย่างต่อเนื่อง โดยใช้ชื่อเพจเฟซบุ๊กชื่อบัญชี “ เพชรเจริญสังฆภัณฑ์ ” ในการก่อเหตุ
ที่ผ่านมาเริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2562 มูลค่าความเสียหายต่อราย หลักร้อยจนถึงหลัก 30,000 บาท มีลูกค้าหลงเชื่อสัปดาห์ละ 3-4 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 10,000,000 ล้านบาท เงินที่ได้มานำมาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่าห้องพักเพื่อหลบซ่อนตัว เล่นพนันออนไลน์ และลักลอบตระเวนเล่นไฮโลในพื้นที่ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด และได้ประสานแจ้งให้พนักงานสอบสวน สน.และ สภ.อื่นๆ ซึ่งมีผู้เสียหายเดินทางเข้าร้องทุกข์และพนักงานสอบสวนรวมรวมพยานหลักฐานเสนอต่อศาลออกหมายจับผู้ต้องหาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่ออายัดตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดี. -สำนักข่าวไทย