กรุงเทพฯ 28 มิ.ย.- ตลท.ร่วมกับเอ็ม บี เค ผนึกพลังธุรกิจเพื่อสังคม กลุ่มหัตถกรรมผ้าทอมือ ผ้าท้องถิ่นไทย ร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้สังคม สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และสืบสานภูมิปัญญาจากฝีมือชุมชน ในงาน “ผ้าเปลี่ยนโลก” ระหว่างวันที่ 28 -30 มิ.ย.66 ที่ชั้น G ลานเซ็นเตอร์ ฮอลล์ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์
น.ส.นพเก้า สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาเพื่อสังคมและสื่อสารองค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกล่าวภายหลังพิธีเปิดงาน “ผ้าเปลี่ยนโลก” ว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับเอ็ม บี เค ผนึกพลังธุรกิจเพื่อสังคม กลุ่มหัตถกรรมผ้าทอมือ ผ้าท้องถิ่นไทย ร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้สังคม สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และสืบสานภูมิปัญญาจากฝีมือชุมชน ในงาน “ผ้าเปลี่ยนโลก” โดยผู้ร่วมงานจะพบกับสินค้าจากผ้าย้อมคราม ผ้าฝ้าย ผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติ ที่มีเสน่ห์ด้วยดีไซน์และรังสรรค์ด้วยวิถีธรรมชาติ พร้อมกิจกรรมเวิร์คช็อปงานคราฟท์
ทั้งนี้ ภายในงาน “ผ้าเปลี่ยนโลก” ครั้งนี้มีธุรกิจเพื่อสังคมที่อยู่ใน SET Social Impact Platform ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมแสดงสินค้าภายในงาน อาทิ Wishulada กระเป๋าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความสวยงามของโลกใต้ทะเล อัพไซเคิลจากวัสดุเหลือใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ฝ้ายจ๋ายาใจ ผลิตภัณฑ์จากผ้าฝ้ายอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี 100% โฟล์คชาร์ม ผลิตภัณฑ์ที่ผสานกับวิถีคนเมืองคนรุ่นใหม่ เสื้อผ้า กระเป๋า และ accessories ที่ผลิตจากผ้าฝ้ายอินทรีย์ ไร้สารเคมี นุ่มต่อการสัมผัส ฮาร์ททิส ผลิตภัณฑ์จากผ้าทอบำบัดของศิลปินบุคคลพิเศษ อินดี้อีโค่ พลัส ผลิตผ้าสีธรรมชาติที่มีคุณภาพ และ อนุรักษ์ธรรมชาติ และ Larinn ผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติจากภาคเหนือ สู่การผลิตเสื้อผ้า รองเท้า เป็นต้น โดย SET Social Impact Platform เป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสังคม และเปิดกว้างในการสร้างสรรค์การทำงานร่วมกันระหว่างภาคสังคมและภาคธุรกิจ สร้างพันธมิตรใหม่ ๆ ในการสร้างผลลัพธ์ที่ดีทางสังคมอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ร่วมสนับสนุน ผู้ประกอบการ SE ที่อยู่ใน SET Social Impact Platform ร่วมแสดงสินค้าภายในงาน โดยบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ได้สนับสนุนช่องทางการจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อสังคม ครอบคลุมพื้นที่ในเขตภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 20 จังหวัด สร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อนำรายได้กลับไปช่วยเหลือสังคม ดูแลสิ่งแวดล้อม และสืบสานวัฒนธรรมผ้าพื้นถิ่นไทยต่อไป ภายในงาน ผ้าเปลี่ยนโลก (Craft for Change) มีผู้ประกอบการธุรกิจเพื่อสังคม หรือ SE (Social Enterprise) ร่วมออก บูธจำนวน 20 ร้านค้า ได้แก่ กนกผ้าฝ้าย, ฝ้ายจ๋ายาใจ, บ้านหาดเสี้ยว จังหวัดสุโขทัย, ยาโน แฮนดิคราฟท์, Banana Land, escape issue, FOLKCHARM, HEARTIST, HOMRAK, IndyEko & aom shoes, JUTATIP, Khaisaeng Handmade, LARINN BY DOUBLE P, MAKA Design, MUNZAA, P’Liv และ พันธมิตรผู้ประกอบการ SE รายใหม่ ๆ ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมในปีนี้ ได้แก่ HomeNet Thailand Brand ผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือจากหลาย ๆ จังหวัด Designed by WISHULADA กระเป๋าดีไซน์ชิค ๆ โดยศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะจากวัสดุเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อปงานคราฟต์ที่น่าสนใจ พร้อมโปรโมชันเมื่อช้อปสินค้าภายในงานครบ 800 บาทขึ้นไป แลกรับฟรี ! ของที่ระลึกสุดคูล กระเป๋าผ้าขาวม้าสุดคูล ตัวแทนผู้ประกอบการ SE ที่ร่วมออกบูธในงานผ้าเปลี่ยนโลกติดต่อกันทุกปี ตั้งแต่ปีแรกจนถึงครั้งนี้ ดังนั้น ขอเชิญท่านที่สนใจร่วมงาน “ผ้าเปลี่ยนโลก” และสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากธุรกิจเพื่อสังคม ได้ระหว่างวันพุธที่ 28 – วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน 2566 ณ ชั้น G ลานเซ็นเตอร์ ฮอลล์ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์
“ตลท.มีแผนที่จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SE ที่อยู่ใน SET Social Impact Platform ทีมีคุณภาพสินค้าที่ดีและเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคให้มีช่องทางจำหน่ายสินค้าตามห้างสรรพสินค้าอื่นๆเพิ่มขึ้น เพราะเห็นถึงแต่ละผู้ประกอบการมีความตั้งใจที่จะผลิตสินค้าด้วยฝีมือตนเองได้มีช่องทางจำหน่ายสินค้ามากขึ้น ขณะเดียวกันสินค้าเหล่านี้ถือว่าเป็นสินค้าไทยไม่แพ้ใครในโลกนี้ แต่สิ่งที่จะให้เป็นที่ยอมรับทั้งคนไทยและต่างชาติมากขึ้นหน่วยงานภาครัฐสามารถเข้ามามีบทบาทส่งเสริมต่อยอดให้สินค้าเหล่านี้ได้” น.ส.นพเก้า กล่าว
นายสมพล ตรีภพนารถ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอ็ม บี เค ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจและการลงทุนที่เน้นความยั่งยืน ตามแนวทาง ESG คำนึงถึงการดูแลสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งกิจกรรม ผ้าเปลี่ยนโลก (Craft for Change) เป็นโครงการที่สนับสนุนพื้นที่ของศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการเพื่อสังคม (SE) และ ชุมชนจากทั่วประเทศ ในการขยายตลาดและเพิ่มช่องทางจำหน่ายงานหัตถกรรมผ้าไทย ที่มีการนำภูมิปัญญาชาวบ้านมาผสมผสานกับการรังสรรค์ดีไซน์ร่วมสมัย ฝีมือประณีตสวยงาม และกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ อยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ใจกลางเมือง ลูกค้าคนไทยเดินทางมาร่วมงานสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS และมีลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติจากทั่วโลกที่จะได้ร่วมสัมผัสความงดงามของผ้าไทยในแต่ละท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน สร้างสรรค์เป็นผลงานที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก (Limited Edition) นอกจากนี้ต้องขอบคุณพันธมิตร SET และ ผู้ประกอบการ SE ที่ร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้สังคม ส่งเสริมการสืบทอดภูมิปัญญาผ้าไทยและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนอีกด้วย .-สำนักข่าวไทย