23 มิ.ย. – “บิ๊กโจ๊ก” แถลงส่งตัว 4 ผู้ต้องหาคนไทย ไปดำเนินคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ทารุณขนส่งคนไปฆ่า ตามหมายจับของศาลในประเทศมาเลเซีย ชี้เป็นครั้งแรก ที่ประเทศไทยส่งคนไทยไปดำเนินคดีที่ต่างแดนตามสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ร่วมกับองค์กร NGO ในประเทศไทย แถลงข่าวการส่งตัวผู้ต้องหา 4 คนไทย ไปดำเนินคดีประเทศมาเลเซีย ตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน หลังเมื่อช่วงปี 2565 ได้รับการประสานความร่วมมือจากทางการมาเลเซีย ให้ติดตามผู้ต้องหาทั้งหมด 9 คน ในคดี ค้ามนุษย์โรฮีนจาเป็นคดีที่ขนคนไปทารุณ และฆ่า ทำลายโอกาสคนชาวโรฮีนจา ที่ต้องการเดินทางไปมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยหลังได้รับการประสาน เจ้าหน้าที่ไทยสามารถติดตามตัวจับกุม ผู้ต้องหาได้ 4 คน มีเสียชีวิตไป 2 คน และอีก 3 คน ต้องโทษคดีอื่นๆ ในเรือนจำไทย และเมื่อพ้นโทษในคดีนั้นแล้ว จะต้องส่งตัวไปดำเนินคดีที่มาเลเซียเช่นกัน ดังนั้นคดีนี้ถือว่าจับกุมได้ครบ 9 คน ตามการประสานงานและหมายจับของศาลปะลิส ประเทศมาเลเซียแล้ว และถือว่าเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทย มีการส่งตัวคนไทยไปดำเนินคดีที่ต่างแดน ซึ่งแสดงให้เห็นความจริงใจของไทยในการแก้ปัญหาค้ามนุษย์
ทั้งนี้ หลังจับกุม ทางการมาเลเซียได้ขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนตามกฎหมายและศาลได้มีคำสั่งส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปดำเนินคดีที่ประเทศมาเลเซียตามคำร้อง โดยเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.) ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซียได้เดินทางมาที่สนามบินดอนเมืองเพื่อมารับตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน กลับไปดำเนินคดี โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งมอบตัวในครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่ไทยและมาเลเซียได้มีพันธสัญญากัน
คดีนี้สืบเนื่องเมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร พบศพผู้เสียชีวิตและศพที่ฝังอยู่ไว้รวมกว่า 30 ศพ บริเวณแคมป์คนงานกลางป่า บนเขาแก้ว ในพื้นที่หมู่ 8 บ้านตะโล๊ะ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และยังขยายผลพบหลุมศพในพื้นที่รัฐปะลิส ประเทศมาเลเซีย อีกจำนวน 180 ศพ จากการสืบสวนทราบว่าทั้งหมดเป็นศพชาวโรฮีนจา ที่ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรและหลบซ่อนบริเวณค่ายกักกันดังกล่าว เพื่อรอส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งมีการจับกุมได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ซึ่งมีผู้ร่วมขบวนการทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และนักการเมืองท้องถิ่นจำนวนมาก รวมทั้งยังมีการดำเนินคดีค้ามนุษย์ ที่มาเลเซียอีกด้วย ซึ่งทางการมาเลเซียได้ออกหมายจับในคดีค้ามนุษย์ และหมายแดงตำรวจสากล รวมทั้งประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังเปิดเผยต่อว่านอกจากนี้ยังได้สั่งกำชับผู้กำกับการสถานีตำรวจ ที่อยู่ในพื้นที่ติดชายแดนของประเทศไทยทั้งหมด ให้เฝ้าระวังเรื่องของการลักลอบขนแรงงานเถื่อนเข้าประเทศ และได้มีการคาดโทษหากพบว่าพื้นที่ไหนปล่อยให้มีการลักลอบเข้ามาในประเทศไทย ผกก.จะถูกลงโทษทางวินัยเป็นอันดับแรก. -สำนักข่าวไทย