ทำเนียบ 20 มิ.ย.-”วิษณุ” ย้ำไทม์ไลน์หลังรับรอง 500 ส.ส. ชี้ได้รัฐบาลใหม่ปลาย ก.ค. หรือต้น ส.ค. ไม่ชี้เป้ากระบวนการตัดตอนคุณสมบัติ “พิธา” ชี้เมื่อได้ประธานสภาคนใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นผู้รับสนองพระราชโองการ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนได้เเจ้งต่อที่ประชุม ครม.ในวันนี้ ถึงไทม์ไลน์ หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. ได้รับรองผล ส.ส.ทั้ง 500 คนแล้ว คาดว่ารัฐบาลชุดนี้ จะสิ้นสุดการทำงานในช่วงต้นเดือนสิงหาคม โดยหลังจากนี้ จะให้เวลาส.ส. ไปรายงานตัว ใน ระหว่างวันที่ 20 ถึง 24 มิถุนายน แต่ความเป็นจริงควรใช้เวลา 7 วัน แต่หากเลยวันที่กกต.กำหนด ก็สามารถไปรายงานตัวได้ จากนั้นทางรัฐสภาจะแจ้งกลับมา ว่ามีส.ส. มารายงานตัวแล้วประมาณเท่าไหร่ และหากเห็นว่ามีจำนวนมากพอ ก็สามารถ นำความกราบบังคมทูล ขอพระราชทานวัน เพื่อประกอบรัฐพิธีเปิดสภา โดยจะใช้ที่อาคารรัฐสภา โดยเมื่อโปรดเกล้าฯ ลงมาเป็นวันใด และมีพระราชกฤษฎีกาประกาศใช้ ก็จะเสด็จพระราชดำเนินในวันนั้น โดยการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร จะเกิดขึ้นหลังเสด็จพระราชดำเนินภายใน 10 วัน แต่โดยปกติแล้วมักจะเร็ว โดยให้เหตุผลว่า ส.ส.มีความพร้อม ในอดีต เลือกวันเดียวกับที่เสด็จพระราชดำเนิน แต่ทั้งนี้ ก็แแล้วเเต่การจัดสรร เมื่อ เลือกประธานเสร็จเรียบร้อยจะใช้เวลา2-3 วันในการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานวัน และเมื่อโปรดเกล้าฯลงมา ทุกอย่างจะอยู่ภายใต้อำนาจของประธานรัฐสภา ซึ่งจะเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ ไม่มีกำหนดว่าจะเลือกภายในเวลาเท่าไหร่ โดยรัฐบาลได้จะทำหน้าที่ได้ก็ต่อเมื่อมีการถวายสัตย์ปฏิญาณตน และรัฐบาลชุดปัจจุบันก็ถือว่าหมดหน้าที่
เมื่อถามว่าในปัจจุบันความสำคัญของประธานรัฐสภาแตกต่างจากในอดีตอย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า เป็นความสำคัญในเชิงการเมือง กฎหมายอำนาจหน้าที่ ซึ่งในเชิงการเมืองมีนัยยะที่แตกต่าง
เมื่อถามว่าหลังจากมีการรับรองส.ส.แล้ว บทบาทของ การยื่นตรวจสอบตามช่องทางมาตรา 82 ใครจะทำได้บ้างนายวิษณุกล่าวว่า ทำได้ทุกรูปแบบ ขอให้ไปดูรัฐธรรมนูญมาตรา 170 และ มาตรา 82 รวมทั้งส.ส. สว. กกต.
เมื่อถามว่าในอดีตที่ผ่านมา เคยมีประธานรัฐสภา ที่มาจากส.ส.พรรคฝ่ายค้านหรือไม่ นายวิษณุตอบว่ามี นั่นคือนาย อุทัย พิมพ์ใจชน แต่เป็นการเสนอรายชื่อจากส.ส.เสียงข้างมาก ส่วนเป็นไปได้หรือไม่ที่ ส.ส. ฝ่ายค้านในสมัยนี้ จะเสนอชื่อประธานรัฐสภา นายวิษณุตอบว่าตนไม่รู้ เพราะเป็นเรื่องของการเมืองให้เขาไปว่ากันเอง
ซึ่งหลังจากโหวตประธานสภา และมีการโปรดเกล้าฯลงมาเป็นที่เรียบร้อย ผู้รับสนองพระบรมมาราชโองการ จะยังคงเป็น พลเอกประยุทธ์ ส่วนจะโหวตเลือกนายก แบบลับหรือเปิดเผย ส่วนใหญ่จะเป็นการเปิดเผย และบางสมัยได้มีการแสดงวิสัยทัศน์ด้วยซ้ำ
เมื่อถามว่าจะมีปัญหาตามมาเรื่อง คุณสมบัติ ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลหาก นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ผมไม่ทราบ ไม่ตอบ ทุกวันนี้ก็อ่านจากฉบับหนึ่ง มาตอบอีกฉบับหนึ่ง ทั้งนี้หากศาลสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ ความเป็นส.ส.นายพิธา ในช่วงการโหวตนายกรัฐมนตรี จะมีทางเลือกอย่างไรบ้างนาย วิษณุกล่าวว่าไม่ทราบ
เมื่อถามว่าประธานสภาจะสามารถยกเว้นเรื่องนี้ไว้ก่อน เพื่อรอให้ศาลตัดสิน แล้วค่อยลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี จะปลอดภัยกว่าหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ควรไปแนะนำอะไรประธานสภา
นายวิษณุ ยังย้ำว่า ขณะนี้ยังบอกวันเวลาที่ชัดเจนไม่ได้ แต่อยู่ในช่วงปลายเดือนกรกฎาและต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งน่าจะเร็วกว่าที่คิด แต่จะตอบแบบละเอียดไม่ได้ เพราะมีการเชื่อมโยงกับ วันเสด็จพระราชดำเนินและการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ประธานรัฐสภา จะช้าหรือเร็วตอบไม่ได้ รวมถึงยังผูกกับ การที่ประธานสภาจะเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อไหร่ กี่รอบ กี่หน มันมีความเชื่อมโยงกันเยอะ ซึ่งได้บอกกับคณะรัฐมนตรีไว้ว่า เป็นการประมาณการโดยเทียบกับอดีต และเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้
เมื่อถามว่าจะเป็นประเด็นในการลดข้อครหา ยื้อเวลา หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้ยื้อ และไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะการเสนอ แต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง หรือโยกย้ายใดใด ต้องขอความเห็นจากกกต.ก่อน และที่ผ่านมา มีหลายตำแหน่งที่ครม. พยายามเสนอ แต่กกต.ไม่อนุญาต เพราะเห็นว่าอยู่ในช่วงเวลาที่รอได้ จึงขอให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดใหม่-สำนักข่าวไทย