ฟ้อง ม.151 ศาลอาญา ไม่ทำให้สะดุดเก้าอี้นายกฯ

ทำเนียบ 14 มิ.ย.- “วิษณุ“ แจงถ้าฟ้อง ม.151 ศาลอาญาสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ไม่ทำสะดุดเป็นนายกฯ ชี้ ต้องศาล รธน. ถึงสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ บอกให้รอดูคำร้อง-คำสั่งศาล ไม่ขอตอบหวั่นชี้ช่อง มองอยู่ที่ดุพินิจ ปธ.สภาฯ โหวตเลือกนายกฯ หากรู้มีปัญหา แต่เดินหน้าเลือกต่อ ต้องรับผิดชอบ


นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการให้สัมภาษณ์วานนี้ (13 มิ.ย.) ที่ระบุว่า หากผู้ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จะสามารถเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ ว่า เมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.) คำถามมีหลายคำถาม ตั้งต้นถามตน จากมาตรา 151 แล้วก็ไม่รู้ว่าขยับกระโดดคำถามไปเป็นคำถามในมาตรา 82 เมื่อใด ซึ่งหลักง่ายๆ ที่เขามาโต้แย้งตน ถ้าเป็นไปตามข่าวว่าตนได้พูดอย่างนั้น ก็ถูกต้องแล้ว เพราะต้องเรียงลำดับเรื่องการฟ้องตามมาตรา 151 ศาลจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ เพราะเป็นการฟ้องตามศาลอาญาปกติ ศาลที่จะสามารถสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้คือศาลรัฐธรรมนูญและสื่อถามตนว่าการหยุดปฏิบัติหน้าที่จะเริ่มตั้งแต่เมื่อใด คำตอบคือ เริ่มตั้งแต่ถวายสัตย์ปฏิญาณ ถึงจะเข้าชื่อยื่นตรวจสอบใดๆ ได้ แต่ถ้าถามว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ปฏิญาณตนได้หรือไม่ ก็ต้องตอบว่าได้ในฐานะ ส.ส.และถ้ามีการไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องไปดูว่าศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่อะไร หากเป็นหน้าที่ ส.ส.ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.แต่การเป็นว่าที่นายกฯ ศาลไม่ได้สั่ง เมื่อไม่ได้สั่งก็ดำเนินการโหวตนายกฯไปได้

“ซึ่งตนไม่อยากชี้ช่อง ว่าในคำร้องได้ร้องอะไรยืดยาวมากกว่านี้ ซึ่งถ้าศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ทั้งหมด ก็ไม่สามารถเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เนื่องจากหากเสนอไปแล้ว แต่ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้จะเอาความไปกราบบังคมทูลฯ ว่าอย่างไร และเมื่อทรงแต่งตั้งแล้ว ตั้งรัฐมนตรีก็ไม่ได้ เพราะผู้ที่ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ คือนายกรัฐมนตรี แต่กระบวนการจะต้องเกิดขึ้นตามลำดับอย่างนี้ แต่นี้ไม่ทราบว่าศาลจะสั่งอย่างไรในเวลานั้น เหมือนกับกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี แต่ยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ยังทำหน้าที่ได้ เพราะศาลไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดังนั้นสิ่งที่เขาโต้แย้งผมมาก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แต่ว่าหยิบประเด็นกันขึ้นมาคนละประเด็นกัน” นายวิษณุ กล่าว


นายวิษณุ กล่าวว่า ในกฎหมายไม่มีข้อห้ามแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ตนไม่รู้ว่าคำร้องจะว่าอย่างไร ซึ่งถ้าตนแสดงความคิดเห็น จะหาว่าชี้ช่องให้ร้องอีก ตนจึงไม่ขอตอบในส่วนนี้ ทั้งหมดอยู่ที่คำร้องของผู้ร้อง และอยู่ที่คำสั่งของศาลด้วย หากร้องไป 5 เรื่อง ศาลสั่งแค่ 2 เรื่องก็ไม่ได้

เมื่อถามว่าสุดท้ายแล้วจะอยู่ที่ดุลพินิจของประธานสภาผู้แทนราษฎรใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรมีบทบาทสำคัญที่สุด ที่จะจัดการเรื่องนี้ เนื่องจากมีลายเซ็นของประธานสภาผู้แทนราษฎรคนเดียวในการกราบบังคมทูลฯ เรื่องนี้ เพราะเวลาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี จะมีคำว่า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน

เมื่อถามว่า บทบาทของประธานสภาฯ หากเห็นอะไรสมควรหรือไม่สมควร จะต้องดำเนินการตรงนี้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อยู่ที่ตรงนี้ ที่จะต้องรับผิดชอบ เหมือนการเสนอแต่งตั้งข้าราชการ จะมาจากกระทรวงไหนก็ช่าง นายกรัฐมนตรีเป็นคนเซ็น นายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ


ส่วนเรื่องนี้อยู่ที่ประธานสภาฯ ใช่หรือไม่ที่ต้องทำให้ถูกต้อง นายวิษณุ กล่าวว่า ถูกต้อง เริ่มต้นพอเสนอชื่อประธานสภาฯ จะรับชื่อนั้นหรือไม่

“ถ้าทำไม่รู้ไม่ชี้ก็รับมา และก็ต้องมีการโหวตแข่งอยู่แล้ว 2-3 ชื่อ ก็ว่ากันไป เมื่อสอบตก ไม่ได้ประธานสภาฯ ก็ไม่ต้องรับผิดชอบ แต่หากได้ขึ้นมาประธานสภาฯ ก็ต้องคิดหนัก“ นายวิษณุ กล่าว

ส่วนหาก ส.ส.โหวตรายชื่อที่มีปัญหาแล้วได้รับการเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีจะมีปัญหาด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ทั้งส.ส. และ ส.ว. เป็นเพียงการรับผิดชอบทางการเมือง แต่ไม่มีการรับผิดชอบทางกฎหมาย

เมื่อถามว่าหากพิจารณาตามข้อกฎหมาย จะมีเฉพาะตำแหน่ง ส.ส.หรือนายกรัฐมนตรี ที่ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตราบใดที่ยังไม่ได้ตำแหน่ง อาจจะยังไม่มีกฎหมายที่ระบุให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ล่วงหน้าใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่กล้าตอบ เพราะเราไม่เคยมีตัวอย่าง ศาลอาจจะสั่งหรือไม่สั่งก็ได้ การสั่งตามมาตรา 82 เป็นการสั่งในตำแหน่ง ส.ส. ส.ว. และรัฐมนตรี

ส่วนกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มีการร้องแค่เรื่อง ส.ส.เพียงอย่างเดียว จึงสามารถโหวตนายกรัฐมนตรีได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ ตอนนั้นไม่มี แต่หากมีคำร้องในตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ พ่วงมาด้วยก็จะเกิดปัญหา ซึ่งเราไม่มีตัวอย่างมาก่อนจึงไม่สามารถเปรียบเทียบได้

เมื่อถามว่าหากจะร้องในกรณีดังกล่าวต้องให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีก่อนใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ขอชี้ช่อง ถ้าผมตอบคุณตรงนี้ เท่ากับผมชี้ช่อง

ส่วนหากโหวตนายกรัฐมนตรีแล้วไม่ผ่าน วาระจะถูกค้างอยู่ในสภาฯ ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากโหวตได้ไม่ถึงครึ่ง วาระนี้ก็อยู่ในสภาฯ ถูกแล้ว แต่ถ้าตนพูดอย่างนี้ ก็จะเป็นการถูกมองว่าชี้ช่องให้รัฐบาลอยู่ยาว ก็ควรทำให้เสร็จเร็วๆ วันนี้ไม่เสร็จ พรุ่งนี้ก็เลือก มะรืนก็เลือก

ส่วนหากช่วงที่มีการโหวตนายกรัฐมนตรียังไม่ได้ 376 เสียง ในระหว่างนั้นศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิขาดคุณสมบัติ ส.ส. จะโยงไปถึงคุณสมบัติแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากจะโยงต้องดูว่า คำร้อง ร้องว่าอย่างไร และคำสั่งศาลสั่งไว้อย่างไร

“เราจะบอกว่า ศาลไม่มีอำนาจสั่งก็ไม่ได้ ผมไม่แน่ใจ ศาลอาจจะบอกว่ามีก็ได้ เพราะว่า ศาลรัฐธรรมนูญเคยสั่งแปลกๆ หลายหนแล้ว” นายวิษณุ กล่าว

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพ่งเล็งการดำเนินคดีต่อนายพิธา ใน ม.151 โดยไม่มีสารตั้งต้น นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบ เพราะรู้ว่าธงของคำตอบคืออะไร

ส่วนที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ออกมาวิจารณ์ข้อกฎหมายที่เปิดช่องให้ ส.ว.เข้าชื่อ 1 ใน 10 เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของส.ส. ตามมาตรา 82 สามารถทำได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สามารถทำได้ เนื่องจากมาตรา 82 ไม่มีบทเฉพาะการสามารถใช้ได้ตลอด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]