กรุงเทพฯ 18 มิ.ย. – ผู้การฯ ชลบุรี ดอดเข้ารายงานตัวกับทีมสอบสวนคดีตบทรัพย์เว็บพนันแล้ว ไม่ตอบพัวพันหรือไม่ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้ง 3 ข้อหา
เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (18 มิ.ย.66) พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวน ที่สโมสรตำรวจ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น กรณีถูกกล่าวหาว่าร่วมกันรีดทรัพย์ 140 ล้านบาท โดยก่อนมาถึง มีรถตู้สีขาวขับวนไปส่งด้านหลังของอาคารสำนักงาน ก่อนจะเดินเข้ามาด้านหลัง โดยอาศัยจังหวะช่วงที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และ 2 นายตำรวจ สอท. ให้สัมภาษณ์สื่อฯ ในช่วงบ่าย
ทันทีที่มาถึง พล.ต.ต.กัมพล รีบเดินเข้าไปในห้องสอบสวน โดยมีสีหน้าเรียบเฉย และไม่ตอบคำถามใดๆ ของสื่อมวลชนที่พยายามสอบถามว่า อยากชี้แจงอะไรหรือไม่ ก่อนที่จะเข้าไปในห้องสอบสวนทันที
สรุปขณะนี้มีนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว 7 นาย ประกอบด้วย
- พ.ต.ต.พรเทพ เพ็ชรนวล สว.สส.สภ.วังจันทร์ จ.ระยอง
- พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา รอง ผบก.สอท.2
- พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ มีอยู่ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.2
- พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี
- ร.ต.อ.สมบุญ บุดดาเลิศ รอง สว.สส.สภ.พลูตาหลวง จ.ชลบุรี
- พ.ต.ท.เสถียร รัชพงษ์ไทย รอง ผกก.สส.สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี
- พ.ต.ท.นครราช นนสีลาด สว.(สอบสวน) สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี
คงเหลือ พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ วาพันสุ รอง ผบก.จว.ชลบุรี ที่ยังไม่มารายงานตัว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี 3 ข้อหา ประกอบด้วย
มาตรา 149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท หรือประหารชีวิต
มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 309 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนรายอื่นโดน 2 ข้อหา คือ มาตรา 157 และมาตรา 309. – สำนักข่าวไทย