กระทรวงการต่างประเทศ 7 มิ.ย.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันคนไทยในกาตาร์ไม่ได้รับผลกระทบเรื่องอาหาร จากการถูกกลุ่มประเทศอาหรับตัดความสัมพันธ์ เตรียมเจรจาขอผ่านเส้นทางส่งออกชิ้นส่วนวัสดุยานยนต์ไทยไปกาตาร์ จับตาสถานการณ์ใกล้ชิด ยังประเมินไม่ได้ว่า จะยุติเมื่อใด หวังเหตุการณ์จะคลี่คลายโดยเร็ว
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดในกาตาร์ หลังกลุ่มประเทศอาหรับ 8 ประเทศตัดความสัมพันธ์และปิดพรมแดน ว่า สถานการณ์ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ต้องติดตามสถานการณ์กาตาร์อย่างใกล้ชิด แต่จะมีผลกระทบเรื่องการเดินทางเข้าออกกาตาร์ ซึ่งไทยจะต้องเจรจากับประเทศรอบๆ กาตาร์ เพื่อขอผ่านทางในการนำสินค้าส่งออก ซึ่งล่าสุดยังไม่ได้รับการประสาน จากกระทรวงพาณิชย์ ที่กลุ่มผู้ส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ ร้องขอให้อำนวยความสะดวกในการส่งออกสินค้าไปยังกาตาร์ ขณะนี้ไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ว่าจะยุติได้เมื่อไร ซึ่งในปี 2014 เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ครั้งนั้นใช้เวลา 9 เดือนแก้ปัญหา ขณะนี้ยังไม่มีสถานการณ์ขาดแคลนอาหาร แต่สถานทูตมีแผนรองรับ ยังไม่ถึงขั้นต้องตั้งศูนย์ช่วยเหลือ
ด้าน น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์คนไทยในประเทศกาตาร์ว่า หลังประเทศต่าง ๆ ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ รายงานว่าเบื้องต้นสถานการณ์ยังอยู่ในสภาวะปกติจึงไม่อยากให้คนไทยตื่นตระหนก แต่ขอให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ในกาตาร์มีคนไทย 3,700 คน แรงงาน 2,200 คน ทำงานในสายการบิน 1,100 ราย ส่วนที่เหลือประกอบอาชีพนวด สปา ร้านอาหาร และนักเรียน ล่าสุดยังไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบเรื่องอาหาร แต่ได้รับผลกระทบเรื่องการเดินทาง ที่มีการปิดพรมแดน ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป แต่หวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยเร็ว
“คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะถึงจะประเมินผลกระทบที่ชัดเจนได้ ขณะนี้ทราบว่ามีความห่วงกังวลถึงการขาดแคลนอาหาร แต่ทางสถานทูตรายงานว่ายังไม่น่าจะมีปัญหาเพราะทางกาตาร์ได้สำรองอาหารไว้มากพอสมควร และหวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายดีขึ้น ขณะนี้ไม่มีสินค้าอะไรที่ขาดตลาดแต่อาจเป็นความห่วงกังวลในระยะสั้นซึ่งทำให้มีคนบางส่วนออกไปกักตุนอาหาร แต่ยังไม่ถือว่าส่งผลกระทบในวงกว้าง”น.ส.บุษฎี กล่าว
น.ส.บุษฎี กล่าวว่า ที่จะต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปคือผลกระทบที่เกิดกับสายการบินหลังจากที่มีการขยายรายชื่อของประเทศที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์รวมเป็น 8 ประเทศ เนื่องจากแต่ละประเทศมีรายละเอียดที่ต่างกัน และย่อมส่งผลกระทบกับการเดินทางซึ่งคงต้องใช้เวลาในการติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่องต่อไป อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ดังนั้นจึงไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตดังกล่าว และสถานเอกอัครราชทูตไทยจะให้การดูแลคนไทยทุกคนอย่างเต็มที่แน่นอน.-สำนักข่าวไทย