กัมพูชา 9 พ.ค. – วอลเลย์บอลหญิงซีเกมส์ ตบสาวไทย ชนะ อินโดนีเซีย 3-0 เซต ประเดิมสนามนัดแรกได้อย่างยอดเยี่ยม ด้าน “โค้ชด่วน” เผยภาพรวมถือว่าน่าพอใจ เกมนี้หมุนเวียนผู้เล่น ส่วนเกมต่อไปกับเมียนมาไม่ประมาท แต่มั่นใจชนะได้
วอลเลย์บอลหญิง ที่โอลิมปิก คอมเพล็กซ์ กรุงพนมเปญ รอบแรก กลุ่มเอ นัดแรก ทีมสาวไทย แชมป์เก่า 15 สมัย พบ อินโดนีเซีย เกมนี้ไทยส่ง ชัชชุอร โมกศรี ที่เพิ่งช่วยสโมสรในลีกในตุรกี ลงสนามร่วมกับ พิมพิชยา ก๊กรัมย์, ดาริน ปิ่นสุวรรณ, วัชรียา นวลแจ่ม, โสรยา พรมหล้า มือเชต และสุพัตรา ไพโรจน์ ตัวรับอิสระ ที่สลับกับปิยะนุช แป้นน้อย ซึ่งชุดนี้เป็นชุดที่เตรียมลุยศึกเนชั่นส์ลีกส์ในเดือนมิถุนายนนี้ ปรากฏว่าทีมสาวไทยเล่นได้เหนือชั้นกว่า ตบเอาชนะไปได้ 3 เซตรวด 25-16 ทั้ง 3 เซต ประเดิมสนามนัดแรกได้อย่างยอดเยี่ยม สำหรับวันนี้พรุ่งนี้ (10 พ.ค.) ทีมสาวไทยจะพบกับเมียนมา เวลา 14.30
หลังจบเกม “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมสาวไทย กล่าวว่า ภาพรวมถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เกมนี้หมุนเวียนผู้เล่น ส่วนเกมต่อไปกับเมียนมาไม่ประมาท แต่มั่นใจว่าชนะได้
เทนนิส บริเวณศูนย์กีฬาแห่งชาติมรดกเตโช กรุงพนมเปญ ประเภททีมชาย รอบชองชนะเลิศ ไทย แชมป์เก่า พบกับเวียดนาม เดี่ยวมือสอง ยุทธนา เจริญผล นักเทนนิสหนุ่มอ่างทอง วัย 22 ปี มือ 960 ของโลก พลิกลับมาหวดเอาชนะ ตรินห์ ลิน เกียง ของเวียดนาม 2-1 เซต 3-6, 7-5 และ 6-4 ช่วยให้ทีมไทยขึ้นนำ 1-0 คู่ ก่อนที่คู่เดียวมือ 1 ของไทย กษิดิศ สำเร็จ จะหวดชนะ ลี ฮวง นัม 6-4 และ 6-3 ส่งผลให้ไทย ชนะ เวียดนาม 2-0 คู่ คว้าเหรียญทองมาครอง และเป็นการคว้าเหรียญทองประเภททีมชายสมัยที่ 10 ได้รับเงินอัดฉีดจากนายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย 1 ล้านบาท
ส่วนรอบชิงชนะเลิศ ประเภททีมหญิง ทีมไทย แชมป์เก่า ที่เข้าชิงมา 14 ครั้ง คว้าแชมป์ได้เพียงแค่ 6 ครั้ง พบกับ อินโดนีเซีย คู่ปรับเก่า โดยเดี่ยวมือสอง อัญชิสา ฉันทะ วัย 20 ปี ของไทย หวดเอาชนะ อัลดิลา ซูตเจียดี้ 2-0 เซต 7-6 (8-6), 6-3 ทำให้ไทยขึ้นนำ 1-0 คู่ ก่อนที่เดี่ยวมือหนึ่ง ลัลนา ธาราฤดี วัย 18 ปี แพ้ ทำให้เสมอกัน 1-1 คู่ ต้องตัดสินในประเภทหญิงคู่ ซึ่งหญิงคู่ของไทยแพ้ 0-2 เซต ทำให้ทีมไทยแพ้ 1-2 คู่ ได้เหรียญเงินปลอบใจ ส่วนอินโดนีเซียคว้าเหรียญทอง
เปตองประเภทคู่ผสม รอบชิงชนะเลิศ ทีมไทย ที่ส่ง “แจ๊ค สุพรรณ” ศราวุฒิ ศรีบุญเพ็ง กับ “ฝ้าย” นันทวัน เฟื่องสนิท เจ้าของแชมป์โลก 2022 ที่ประเทศเดนมาร์ก พบกับ “เจ้าภาพ” กัมพูชา ที่ส่ง นพ ชูร์ลีคา และเซา โซเพรานน โดยทอยแก่นคู่ของไทยโยนทำแต้มได้แม่นยำและเข้าเป้ากว่า ชนะ 13-4 คะแนน คว้าเหรียญทองไปครอง และเป็นการได้เหรียญทองคู่กันเป็นครั้งแรกของศราวุฒิ กับนันทวัน ในซีเกมส์อีกด้วย
หมากรุกกัมพูชา วันสุดท้าย ชิง 3 ทอง ประเภทชายเดี่ยว 60 นาที บุคลลชาย รอบชิงชนะเลิศ บุญสืบ แซ่เฮง จอมโขกวัย 57 ปี ของไทย พบกับ ซาม กะดา เจ้าภาพ กัมพูชา ปรากฏว่า บุญสืบที่เดินหมากด้วยความมั่นใจ เอาชนะกัมพูชา 1-0 กระดาน คว้าเหรียญทองให้กับทัพนักกีฬาไทยเพิ่มอีก 1 เหรียญ และเป็นเหรียญที่ 2 ของบุญสืบในซีเกมส์ครั้งนี้ หลังก่อนหน้านี้คว้าประเภททีมชาย 4 คน
ส่วนในประเภทชายคู่ 60 นาที วรเทพ ทิมศรี และวโรฒม์ คณานับ ทำได้ 6,000 คะแนนรวมมากที่สุด คว้าเหรียญทอง ทำให้ไทยคว้ามาได้ 4 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง เป็นเจ้าเหรียญทองในกีฬาหมากรุก ซึ่งทีมหมากรุกไทยจะเดินทางกลับเมืองไทยในวันพรุ่งนี้
สรุปเหรียญสรุป เหรียญทอง อันดับ 1 กัมพูชา เจ้าภาพ คว้า 37 เหรียญทอง 36 เหรียญเงิน 37 เหรียญทองแดง ส่วนไทยอยู่อันดับ 3 คว้า 36 เหรียญทอง 28 เหรียญเงิน 40เหรียญทองแดง
โปรแกรมวันพรุ่งนี้ (10 พ.ค.) ชิง 52 เหรียญทอง จากปันจักสีลัต 16 เหรียญทอง, กรีฑา 10 เหรียญทอง กีฬาทางน้ำ 8 เหรียญทอง, กุนขะแมร์ 5 เหรียญทอง วูซู 4 เหรียญทอง คิวสปอร์ต และกอล์ฟ 2 เหรียญทอง แบดมินตัน, คริกเก็ต, อีสปอร์ต, เปตอง และซอฟท์เทนนิส อย่างละ 1 เหรียญทอง.-สำนักข่าวไทย
