มติ ครม.ช่วยค่าไฟกลุ่มเปราะบางต้องให้ กกต.อนุมัติ

กรุงเทพฯ 25 เม.ย. – ปลัดกระทรวงพลังงาน ระบุ ครม. มีมติช่วยค่าไฟกลุ่มเปราะบาง ต้องให้ กกต. อนุมัติ


นายกุลิศ สมบัติศิรี ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า แม้ ครม. จะอนุมัติงบกว่า 11,000 บาท ต่ออายุช่วยค่าไฟฟ้ากลุ่มเปราะบาง ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเนื่องเดือน พ.ค.-ส.ค. เป็นเวลา 4 เดือน และผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน จะได้ส่วนลด 150 บาท รอบเดือน พ.ค. นั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ทันที เนื่องจากจะต้องได้รับอนุมัติให้ใช้งบประมาณจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อน เนื่องจากรัฐบาลขณะนี้เป็นรัฐบาลรักษาการ ไม่สามารถใช้งบประมาณได้ ดังนั้น ครม. จะต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ โดยต้องเสนอ กกต. พิจารณาให้ความเห็นชอบใช้งบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 169 (3) กำหนด หาก กกต. อนุมัติก็สามารถดำเนินการต่อได้

ส่วนเรื่องการสำรองไฟฟ้าที่มีประเด็นต่างๆ ออกมามากมายนั้น ในการดำเนินการแผนพัฒนาพลังไฟฟ้า (แผน PDP) เมื่อรัฐบาลประกาศว่าจะเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ในปี ค.ศ. 2050 ดังนั้น การเปิดให้มีการผลิตไฟฟ้า โดยเฉพาะไฟฟ้าพลังงานสะอาด หรือไฟฟ้าสีเขียว เข้ามาในระบบจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น และจะต้องเพิ่มสัดส่วนเข้ามา ขณะที่พลังงานหมุนเวียนจากธรรมชาติ เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ ไม่ได้มีตลอดเวลา จึงต้องสำรองไฟฟ้าเพื่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ และเพื่อรองรับพลังงานหมุนเวียนในอนาคต และการจะใช้พลังงานไฟฟ้าที่เป็นพลังงานสะอาดในปริมาณมากขึ้น ก็ต้องมีการสำรองที่มากด้วยเช่นกัน และแม้จะมีการสำรองไฟสูงก็ไม่มีผลทำให้ค่าไฟฐานเพิ่มขึ้น เพราะค่าไฟฐานยังเป็นอัตราเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลง 3-4 ปีแล้ว


ส่วนค่าไฟฟ้าต่ำกว่า 4 บาท จะสามารถทำได้หรือไม่นั้น ปลัดกระทรวงพลังงาน แจงว่า ช่วงปี 2562-2563 ก่อนสถานการณ์โควิด ที่ค่าไฟฟ้าต่ำกว่า 4 บาทนั้น เนื่องจากช่วงขณะนั้นราคาก๊าซแอลเอ็นจีในตลาดโลกต่ำมากอยู่ที่ 6-7 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ก่อนกระโดดขึ้นมาเป็น 40 กว่าดอลลาร์ต่อล้านบีทียู เพราะฉะนั้นค่าไฟที่แพงขึ้นมาจากต้นทุนแอลเอ็นจี ขณะนี้ราคาตลาดโลกลดลงมาอยู่ที่ 19-20 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู และเดือนหน้า กกพ. อนุมัติให้ ปตท. จัดหาให้ได้ประมาณ 13-15 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู จะทำให้ต้นทุนค่าเอฟทีลดลงมา และถ้าหากราคาก๊าซแอลเอ็นจีลดลงมาได้อยู่ 11-12 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ยิ่งจะทำให้ต้นทุนค่าเอฟทีต่ำลงมาได้อีก ทั้งนี้ ยังมีภาระที่ต้องคืนหนี้ กฟผ. 

นอกจากนี้ยังมีสัญญาณที่ดีคือ กำลังผลิตก๊าซในอ่าวไทย แหล่ง G1 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่ง ปตท.สผ. ผู้รับสัมปทาน ขณะนี้ผลิตได้ได้ 300 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และคาดว่าจะเพิ่มกำลังผลิตเป็น 500-600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในปลายปีนี้ ซึ่งมาทดแทนการนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีได้ และเมื่อประกอบกับในอนาคตราคาในตลาดโลกลกลงอีก อัตราแลกเปลี่ยนดีขึ้น จะส่งผลให้ค่าเอฟทีลดลง และจะทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงตามไปด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ