กทม. 24 เม.ย.- ขสมก.พร้อมรับผิดชอบ กรณีคนขับรถเมล์ สาย 66 เฉี่ยวชนยาย วัย 83 ปี ขณะข้ามทางม้าลายกลางสี่แยกศรีย่าน บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ความคืบหน้ากรณีคนขับ ‘รถเมล์’ สาย 66 ขับเฉี่ยวชนคุณยายวัย 83 ปี อาการสาหัส ระหว่างที่คุณยายเดินข้ามทางม้าลายกลางสี่แยกศรีย่าน หลังออกไปซื้อต้มเลือดหมูให้หลานที่ป่วยเป็นมะเร็ง และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เหตุเกิดขึ้นช่วงเช้าวานนี้ บริเวณกลางสี่แยก ศรีย่าน เขตดุสิต
วันนี้ เวลา 11.00 น. นายอำพน และ นางสาวชนม์ชนก คนขับรถเมล์และกระเป๋ารถเมล์ สาย 66 นำพวงมาลัยเข้าขอขมาครอบครัวของนางยุพิน อายุ 83 ปี หลังเสียชีวิตจากกรณีดังกล่าว นายอำพน กล่าวยืนยันว่า ขับรถมาตามปกติ ไม่เร็วเนื่องจากเป็นทางโค้ง และยอมรับว่าไม่เห็นผู้เสียชีวิตหรือรถจักรยานยนต์ ได้ยินแต่เสียงคนตะโกนว่ารถเมล์ทับคน จึงหยุดรถ รีบลงไปดูและช่วยเหลือ รู้สึกเสียใจและไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เดิมทีต้องวิ่งเส้นถนนสามเสน ตรงไปแยกเกียกกาย แต่มีการเปลี่ยนเส้นทางเพราะมีการก่อสร้าง จึงต้องเลี้ยวขวาไปทางแยกร่วมจิตต์ เข้าถนนนครไชยศรี ซึ่งเปลี่ยนมาเป็นระยะเวลากว่าหนึ่งปีกว่าแล้ว ขณะที่กระเป๋ารถเมล์ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่นายสมหมาย ชูเลิศ หัวหน้ากลุ่มงานปฏิบัติการรถ กอง 3 เขต 7 ขสมก. หัวหน้างานได้เดินทางมาดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตและช่วยประสานในการติดต่อขอรับศพในวันนี้ ยืนยันว่า ต้นสังกัดจะรับผิดชอบ และจะยื่นกรมธรรม์จากบริษัทประกันในการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต เบื้องต้นทราบว่าน่าจะอยู่ที่หลักแสนถึงหลักล้านบาท ส่วนคนขับรถเมล์รายนี้ ขับมานาน 3-4 ปี และไม่มีเรื่องร้องเรียนมาก่อน รวมถึงยังมีพฤติกรรมที่ดี ซึ่งในช่วงเกิดเหตุ GPS ในรถ วัดความเร็วในขณะนั้นได้ 20-24 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ด้าน นางธัญพร อายุ 84 ปี ญาติของผู้เสียชีวิต ที่เดินทางมารับศพนางสาวยุพิน อายุ 83 ปี ที่ห้องนิรมัย (นิติเวช) โรงพยาบาลวชิรพยาบาล บอกว่า พอทราบเรื่องว่านางสาวยุพินถูกรถชน ก็ตกใจและยังช็อกมาก ไม่คิดว่าจะออกไปซื้อต้มเลือดหมูให้เด็กที่ป่วยเป็นมะเร็งที่บ้านแล้วจะเกิดเหตุรถชน แต่หลังจากเกิดเรื่องทาง ขสมก. ก็ได้เข้ามาประสานเข้ามาแสดงความรับผิดชอบทันที และยืนยันว่าจะช่วยเหลือครอบครัวและเยียวอย่างดีที่สุดโดยเมื่อวานนี้ได้พูดคุยกับคนขับรถเมล์แล้ว เขาก็อยู่ในอาการเสียใจ ร้องไห้ และขอโทษอยู่ตลอด ซึ่งทางครอบครัว ก็ไม่ติดใจและอโหสิกรรมให้ แต่ยังข้องใจถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุ เพราะมีคนในระแวกนั้น ให้ข้อมูลว่า มีรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชน ก่อนจะถูกรถเมล์ทับ แต่ทางตำรวจจะออกมาระบุว่า ไม่มีรถจักรยานยนต์มาเฉี่ยวชนตามที่ชาวบ้านกล่าวอ้าง ตัวเองจึงอยากดูกล้องวงจรปิดเพื่อความแน่ชัดและให้หายข้องใจ
ส่วนผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่กับตัวเองมาโดยตลอด เป็นคนที่คอยดูแลลูกหลานในครอบครัว (คนแก่ 3 เด็ก 2) และจะออกไปซื้อของให้ที่บ้านตลอด และร่างกายแข็งแรงดี เดินเหินได้ปกติ แต่ในวันเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้ออกไปใส่บาตรและซื้อกับข้าวให้หลานที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง แต่กลับมาเกิดเหตุขึ้นสลดเสียก่อน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางครอบครัวจะนำร่างไปทำพิธีทางศาสนาที่วัดจันทรสโมสร เขตดุสิต ต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.นิพนธ์ นิธิการุณย์เลิศ ผู้กำกับการ สน.สามเสน ระบุถึงความคืบหน้าทางคดีว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลชันสูตรของแพทย์อย่างละเอียด สอบพยานที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อสรุปคดี และแม้ว่า ครอบครัวผู้เสียหายไม่ประสงค์เอาความกับคนขับ แต่ตำรวจต้องแจ้งดำเนินคดีกับนายอำพน คนขับรถเมล์ ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และจากการพูดคุยกับฝั่ง ผู้ก่อเหตุ ขสมก. ก็พร้อมรับผิดชอบดูแลเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต จากการรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิด ในชั้นนี้พบว่าจังหวะนั้นเป็นไฟเขียวจากฝั่ง รพ.วชิระ และต้องเลี้ยวโค้งเข้า ถนนนครไชยศรี เพื่อเลี่ยงการก่อสร้าง โดยก่อนหน้ารถเมล์มีรถยนต์ 2 คัน เลี้ยวผ่าน จากนั้นเป็นจังหวะที่ผู้เสียชีวิตกำลังเดินข้ามทางม้าลาย แต่จุดนั้นไม่มีเสาสัญญาณไฟทำให้คนข้ามต้องระวังตัวเอง และคาดว่าคนขับรถเมย์อาจไม่ทันระวัง ยืนยันไม่มีรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนตามที่มีกระแสข่าว .-สำนักข่าวไทย