สบส.เตือนสงกรานต์ดื่มไม่ขับ

กรุงเทพฯ 12 เม.ย. – สบส. เผยผลสำรวจเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ นักดื่มวางแผนดื่มแอลกอฮอล์กับเพื่อนและคนในครอบครัว ทำเป็นเรื่องปกติแทบทุกปี ร้อยละ 71.6 โดยส่วนใหญ่รับรู้ดื่มแล้วขับเกิดอุบัติเหตุ ตัวเองบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ร้อยละ 87.4


นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดยกองสุขศึกษา ได้ดำเนินการเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพประเด็นพฤติกรรมเสี่ยงช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 20 มีนาคม-7 เมษายน 2566 โดยดำเนินการร่วมกับสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และศึกษาธิการจังหวัด กลุ่มตัวอย่าง 12,305 คน จากทุกภูมิภาค ผลการสำรวจพฤติกรรมการวางแผนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เฉพาะผู้ที่คาดว่าจะฉลองเทศกาลสงกรานต์กับเพื่อนหรือคนในครอบครัวแน่นอน พบว่าประเด็นเหตุผลที่ฉลองเทศกาลสงกรานต์ด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการวางแผนฉลองเทศกาลสงกรานต์ด้วยการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับเพื่อนและคนในครอบครัว ทำเป็นเรื่องปกติแทบทุกปี ร้อยละ 71.6 รองลงมาเป็นช่วงเวลาที่ปลดปล่อยความเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งปี ร้อยละ 71.2 ตามมาด้วยเป็นเครื่องดื่มที่ใช้เข้าสังคมเวลาพบปะญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ร้อยละ 70.3 ตามลำดับ

สำหรับประเด็นการรับรู้ผลเสียเมื่อดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถ พบว่ากลุ่มตัวอย่างรับรู้ว่าการดื่มแล้วขับทำให้เกิดอุบัติเหตุจนทำให้ตัวเองบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ร้อยละ 87.4 รองลงมารับรู้ว่าการดื่มแล้วขับทำให้ขับรถชนคนอื่นได้ ร้อยละ 86.1 และรับรู้ว่าดื่มแล้วขับทำให้โดนตำรวจจับดำเนินคดีได้ ร้อยละ 86 แนะสงกรานต์นี้ดื่มไม่ขับ สังสรรค์แบบไร้แอลกอฮอล์


ด้าน นพ.สามารถ ถิระศักดิ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ แนะประชาชนปฏิบัติตามหลักสุขบัญญัติข้อ 5 งดดื่มสุรา เนื่องจากการดื่มสุราเป็นผลพวงทำให้ทำลายเซลล์ประสาทสมอง ระยะแรกทำให้ขาดสติ ก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาท และเกิดอุบัติเหตุ ระยะยาวทำให้ความจำเสื่อมเป็นแผลในกระเพาะอาหาร ตับแข็ง ความดันโลหิตสูง เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง โดยสามารถปฏิเสธการดื่ม ด้วยการใช้วิธีการปฏิเสธซ้ำ โดยไม่ต้องใช้ข้ออ้าง พร้อมทั้งบอกลาและหาทางเลี่ยงจากเหตุการณ์นั้นไป หรือต่อรองผัดผ่อน โดยการขอยืดระยะเวลาออกไป เพื่อให้ผู้ชวนเปลี่ยนความตั้งใจ จึงขอเชิญชวนประชาชนดื่มไม่ขับในเทศกาลสงกรานต์ เพื่อลดอุบัติเหตุ เดินทางอย่างปลอดภัย ใกล้ชิดครอบครัวอย่างมีความสุข สงกรานต์สุขใจไร้แอลกอฮอล์ สุขสันต์วันปีใหม่ไทยถ้วนหน้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง