สตช. 5 เม.ย. – ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบนักท่องเที่ยวจีนใช้วีซ่า VOA เข้าไทย เฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงก่อเหตุอาชญากรรม ส่วนคดีอุ้มฆ่า นศ.จีน มั่นใจหลักฐานแน่น
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า เมื่อวานได้มีการเชิญ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง มาพูดคุยเพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาไทย โดยใช้ Visa on Arrival หรือ VOA เบื้องต้นได้มีการเน้นย้ำเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งมีทั้่งกลุ่มที่ใช้วีซ่า VOA 15 วัน และวีซ่าท่องเที่ยว วีซ่าทำงาน กลุ่มคนเหล่านี้จะเดินทางเข้าไทยแล้วก็จะต้องติดตามและเข้มงวดกับการขอนุญาตอยู่ต่อ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่เกินกว่ากฎหมายกำหนด หรือ Over Stay และกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะก่ออาชญากรรม ทางตำรวจก็มีการบูรณาการร่วมกัน ทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจท่องเที่ยว รวมทั้งพื้นที่ใช้มาตรการเชิงรุกตรวจสอบบ้านเช่า ที่พัก อพาร์ตเมนต์ และเกสต์เฮาส์ต่างๆ ตามข้อมูลที่ได้แจ้งไว้เบื้องต้น ส่วนการขอเปลี่ยนวีซ่าเพื่ออยู่ต่อให้นานขึ้น ขั้นตอนเหล่านี้ก็ได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ โดยจะนำบทเรียนเก่าๆ มาใช้ในการทำงาน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการก่ออาชญากรรมให้ดียิ่งขึ้น
ผบ.ตร. กล่าวว่า การที่มีนักท่องเที่ยวใช้วีซ่า VOA มองว่าเป็นประโยชน์มากกว่าเสีย เพราะประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่จะต้องมีมาตรการเชิงรุกที่ตรวจสอบในประเทศมากขึ้น ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการกำชับมาอย่างต่อเนื่อง หากมีส่วนเอื้อประโยชน์ เรียกรับผลประโยชน์กับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่ผ่านมาก็ได้มีการลงโทษไปแล้วจำนวนมาก เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง และสถานการณ์ปัจจุบันก็ดีขึ้น
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาไทยโดยใช้วีซ่า VOA ระหว่างที่อยู่ในประเทศ ทางการไทยก็จะมีการประสานข้อมูลกับทางการจีน เพื่อทราบข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับประวัตินักท่องเที่ยวว่ามีประวัติก่อคดีอาชญากรรมมาก่อนหรือไม่ เพื่อเฝ้าระวัง
ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี 3 ผู้ต้องหาชาวจีนและหญิงไทยร่วมกันอุ้มฆ่านักศึกษาสาวชาวจีน ยัดถุงทิ้งร่องน้ำที่จังหวัดนนทบุรี ว่า ขณะนี้ตำรวจไทยที่เดินทางไปถึงประเทศจีนแล้ว ยังไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ที่ถูกควบคุมตัว โดยตำรวจไทยจะไม่ได้ร่วมสอบผู้ต้องหาชาวจีนแต่อย่างใด ซึ่งการสอบสวนตำรวจไทยจะต้องส่งประเด็นข้อสงสัยทั้งหมดเกี่ยวกับคดีรวบรวมให้ทางการจีนไปสอบปากคำผู้ต้องหา และทางการจีนก็จะส่งผลการสอบปากคำให้ตำรวจไทยเพื่อใช้ในการทำคดี ซึ่งขณะนี้ตำรวจไทยอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและคำให้การของผู้ต้องหาหญิงชาวไทยที่เป็นนางนกต่อ เพื่อประกอบคำให้การของผู้ต้องชาวจีนว่าตรงกันหรือไม่ พร้อมกับยืนยันว่า ขณะนี้ตำรวจไทยมีวัตถุพยานและนิติวิทยาศาสตร์ครบถ้วนสมบูรณ์กับการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว. -สำนักข่าวไทย