นนทุบรี 30 พ.ค. – กระทรวงพาณิชย์แจงสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจระหว่างปี 2557 – 2560 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวและราคาสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้น สะท้อนความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ว่าปี 2557 เกิดรัฐประหารมีจำนวนผู้จดทะเบียนธุรกิจลดลง ขณะที่หลังการรัฐประหารปี 2557 ตัวเลขการเลิกกิจการกลับเพิ่มขึ้นนั้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้าขอชี้แจงว่าเหตุการณ์ในปี 2557 อาจทำให้ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการมีความกังวลและเกิดความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของภาคธุรกิจโดยทั่วไป
ทั้งนี้ จากข้อเท็จจริงพบว่าสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลปี 2557 มีจำนวนนิติบุคคลจัดตั้งทั้งสิ้น 59,468 ราย ลดลง 7,834 ราย คิดเป็นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับปี 2556 ซึ่งมีจำนวน 67,302 ราย ทั้งนี้ ในปี 2556 เป็นปีที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งสูงสุดในรอบ 7 ปี (ปี 2550 – 2556) เนื่องจากมีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจค้าสลากเพื่อขอรับโควตาการจัดสรรสลากกินแบ่งรัฐบาลสูงถึง 5,124 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 8 ของนิติบุคคลที่จัดตั้งในปี 2556 และมีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจวิทยุกระจายเสียงตามมาตรการของ กสทช. ซึ่งกำหนดให้ผู้ดำเนินกิจการวิทยุกระจายเสียงให้มาจดทะเบียนในรูปแบบนิติบุคคลสูงถึง 1,843 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ของนิติบุคคลที่จัดตั้งในปี 2556 ทำให้การจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ในปี 2557 ลดลง เมื่อเทียบกับปี 2556
อย่างไรก็ตาม การจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่เริ่มปรับตัวดีขึ้นเมื่อสถานการณ์มีเสถียรภาพมากขึ้นและความเชื่อมั่นฟื้นตัว โดยปี 2558 มีการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ 60,147 ราย เพิ่มขึ้น 679 ราย คิดเป็นร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับปี 2557 ซึ่งมีจำนวน 59,468 ราย ขณะที่ปี 2559 มีการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ 64,288 ราย เพิ่มขึ้น 4,141 ราย คิดเป็นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปี 2558 ซึ่งมีจำนวน 60,147 ราย และปี 2560 (ม.ค.-เม.ย.) มีการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ 23,585 ราย เพิ่มขึ้น 2,075 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวน 21,510 ราย
นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการจดทะเบียนนิติบุคคลตั้งใหม่กับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกกิจการ จำนวนกิจการที่จดทะเบียนเลิกน้อยกว่าจำนวนกิจการที่จัดตั้งใหม่อย่างมาก และสถิติการจดทะเบียนเลิกกิจการตั้งแต่ ปี 2556 – 2560 เฉลี่ยต่อเดือนมีปริมาณใกล้เคียงกัน คือ ปี 2557 มีการจดทะเบียนเลิก 18,968 ราย เพิ่มขึ้น 1,533 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับปี 2556 ซึ่งมีจำนวน 17,435 ราย ปี 2558 มีการจดทะเบียนเลิก 22,576 ราย เพิ่มขึ้น 3,608 ราย คิดเป็นร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับปี 2557 ซึ่งมีจำนวน 18,968 ราย ขณะที่ปี 2559 มีการจดทะเบียนเลิก 20,938 ราย ลดลง 1,638 ราย คิดเป็นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปี 2558 ซึ่งมีจำนวน 22,576 ราย และปี 2560 (ม.ค.- เม.ย.) มีการจดทะเบียนเลิก 3,859 ราย ลดลง 612 ราย คิดเป็นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับปี 2559 (ม.ค. – เม.ย.) ซึ่งมีจำนวน 4,471 ราย
ทั้งนี้ การจดทะเบียนเลิกกิจการเป็นวัฏจักรของการประกอบธุรกิจ ปีใดที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งมากก็จะมีการจดทะเบียนเลิกกิจการมากเช่นกัน โดยธุรกิจที่จดทะเบียนเลิกกิจการระหว่างปี 2557 – 2560 (ม.ค. – เม.ย.60) ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจค้าสลาก โดยมีการจดทะเบียนเลิกปี 2557 จำนวน 2,498 ราย ปี 2558 จำนวน 3,924 ราย ปี 2559 จำนวน 2,250 ราย และปี 2560 (ม.ค. – เม.ย.60) 496 ราย ซึ่งสะท้อนได้ว่าการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่และการจดทะเบียนเลิกกิจการน่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบทางธุรกิจและเหตุผลทางกฎหมายมากกว่าความไม่เชื่อมั่นและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว และตอกย้ำตัวเลขทางสถิติที่พบว่าจำนวนการจดทะเบียนเลิกกิจการมักจะสอดคล้องกับจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่.-สำนักข่าวไทย