กทม. – รฟท. – กฟผ. จับมือเพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดฝุ่น

กรุงเทพฯ 21 มี.ค.-กทม. ร่วมกับ รฟท. และ กฟผ. ลุยปลูกต้นไม้ จำนวน 750 ต้น  บริเวณที่ว่างริมถนนเลียบทางรถไฟสายใต้ย่านบางพลัด หวังต่อยอดให้เป็นสวนสาธารณะยาว 1 กม. ช่วยลดฝุ่น ป้องกันการลอบทิ้งขยะ


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า  เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ได้ร่วมกิจกรรมโครงการบูรณาการการปลูกต้นไม้ล้านต้นของ กทม. และโครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วมของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใต้ความร่วมมือจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)  เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและสร้างกำแพงธรรมชาติกรองฝุ่น ตลอดจนต่อยอดการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อแก้ไขปัญหาการลอบทิ้งขยะ ณ บริเวณที่ว่างริมถนนเลียบทางรถไฟสายใต้ขาออก ช่วงเลยด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษบางพลัด ท้ายซอยจรัญสนิทวงศ์ 75 (สกุลชัย 6) เขตบางพลัด กทม.

“ กทม. ได้ดำเนินโครงการปลูกต้นไม้ล้านต้น ส่วน กฟผ. ได้ดำเนินโครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม 1 ล้านไร่ ซึ่งเป็นเรื่องปลูกต้นไม้เหมือนกัน จึงมาร่วมกันเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง เพราะเมืองจะดีขึ้นได้เราต้องร่วมมือร่วมใจกัน สำหรับพื้นที่บริเวณที่ว่างริมถนนเลียบทางรถไฟสายใต้แห่งนี้ แต่เดิมเป็นกองขยะ เขตบางพลัดจึงได้พัฒนาเป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้ ซึ่งมองว่าในอนาคตควรปลูกเป็นแนวยาวเพื่อพัฒนาให้เป็นทางเดินออกกำลังกาย สร้างสุขภาพที่ดีให้กับประชาชน รวมถึงช่วยกรองฝุ่นต่าง ๆ “นายชัชชาติกล่าว


ด้าน น.ส.นพวรรณ กาญจนะวรรณ รองผู้ว่าการบริหาร กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. มีโครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม 1 ล้านไร่ ในพื้นที่ทั่วประเทศ เป็นหนึ่งในนโยบายมุ่งสู่ EGAT Carbon Neutrality ในปี 2593 และเป็นยุทธศาสตร์ สร้างความยั่งยืนด้านทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และพลังงานที่มีเป้าหมายในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของประเทศ และดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยวางหลักการปลูกป่ารวมงานดูแลบำรุงรักษาไว้ระหว่างปี 2565 – 2574 ซึ่งจะช่วยดูดซับและกักเก็บคาร์บอนได้มากกว่า 1.2 ล้านตันต่อปี และคาดว่าจะสามารถดูดซับและกักเก็บคาร์บอนได้ทั้งสิ้นประมาณ 23.6 ล้านตัน ตลอดระยะเวลาโครงการฯ ในวันนี้ กฟผ. ได้ร่วมมือกับ กทม. และ รฟท. ในการบูรณาการนโยบายปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วมเข้ากับนโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้นของ กทม. ซึ่งจะช่วยให้ในเมืองมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น เพราะด้วยสภาพอากาศในปัจจุบัน หากไม่ช่วยกันดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน จะส่งผลให้การใช้ชีวิตลำบากมากขึ้นในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

5 แรงงานไทยปลอดภัยดี พูดคุยปกติ หลังฮามาสปล่อยตัว

“พิพัฒน์” เผย 5 แรงงานไทยปลอดภัยดี พูดคุยปกติ หลังได้รับการปล่อยตัว มอบปลัดแรงงาน ดูแลสิทธิประโยชน์กองทุนฯ ต่างประเทศ และประกันสังคม

นายกฯ ยินดีหลังได้รับยืนยัน 5 คนไทยได้รับการปล่อยตัวจากกาซาแล้ว

“นายกฯ แพทองธาร” ยินดีหลังได้รับการยืนยัน 5 คนไทยได้รับการปล่อยตัวจากกาซาแล้ว สั่ง รมต.ต่างประเทศ เดินทางไปรับตัวกลับสู่อ้อมกอดประเทศไทย พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสำหรับการช่วยเหลือ หวังคนไทยที่เหลือจะได้รับการปล่อยตัวกลับบ้านอย่างปลอดภัย

ฮามาสปล่อย 5 ตัวประกันคนไทยแล้ว

อิสราเอลยืนยัน 5 ตัวประกันคนไทย อยู่กับสภากาชาดสากลแล้ว กำลังเดินทางข้ามแดนเข้าอิสราเอล หลังถูกกลุ่มฮามาสจับกุมไปตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.66

ศาลธัญบุรีให้ประกัน “ต้า โอริโอ้” กับพวก

ศาลธัญบุรีให้ประกัน “ต้า โอริโอ้” กับพวก คนละ 1 เเสนบาทคดีร่วมกันทำร้ายโดยใช้อาวุธ ออกคำสั่งห้ามเข้าใกล้ผู้เสียหาย นัดรายงานตัว 24 เม.ย.นี้