เมืองธานี 26 พ.ค. – รองนายกรัฐมนตรีสั่งพาณิชย์จังหวัดเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เข้มแข็ง ควบคู่กับการท่องเที่ยว มั่นใจภายในเข้มแข็งจะทำให้เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในงาน “กระทรวงพาณิชย์กับการสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจท้องถิ่น Local Economy 4.0” ว่า ท้องถิ่นถือเป็นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของไทย แต่ที่ผ่านมาถูกละเลย โดยทุกรัฐบาลให้ความสำคัญกับการเติบโตจากส่วนกลางหรือระดับบนมากกว่า จึงทำให้เศรษฐกิจฐานรากระดับท้องถิ่นไม่เข้มแข็ง เมื่อไทยได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก ส่งผลให้การส่งออกของไทยชะลอตัวลง ทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบตามไปด้วย ดังนั้น รัฐบาลจึงพยายามสร้างความแข็งแกร่งภายในประเทศ โดยเฉพาะระดับฐานรากด้วยการปฎิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจให้มีความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจท้องถิ่นและการเติบโตจากภายนอก ไม่ใช่เน้นแต่จะให้มีการเลือกตั้งอย่างเดียว
ทั้งนี้ ไทยมี 8,000 ตำบล 80,000 หมู่บ้าน ที่เป็นฐานหลักของประชากรในประเทศและสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทยด้วยการสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นเน้นการสร้างรายได้ด้วยการผลิตสินค้าเกษตรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยกระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะหน่วยงานในภูมิภาคอย่างพาณิชย์จังหวัดที่มีอยู่ทั่วประเทศ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงธนาคารเฉพาะกิจของรัฐจะต้องไปสำรวจว่าต้องพัฒนาการผลิตที่เน้นจากพื้นที่ หรือเน้นที่ความสามารถของคนในท้องถิ่น โดยจะต้องมีการสร้างผู้นำชุมชนที่มีประสิทธิภาพ เช่น การสร้างนาแปลงใหญ่และแปรรูปสินค้าร่วมกัน และสร้างตลาดชุมชน เพื่อเป็นตลาดกลางกระจายสินค้าท้องถิ่นที่เน้นสินค้าเฉพาะของแต่ละท้องถิ่น ขณะที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะต้องสนับสนุนสินเชื่อในการรวมกลุ่มและธนาคารออมสิน จะต้องเข้ามาดูการผลิตที่มีการเปลี่ยนแปลงจะฝึกอบรมอย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ขณะเดียวกันการผลิตจะต้องรวมถึงปศุสัตว์และการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการท่องเที่ยวและการกีฬาที่จะสร้างรายได้เข้าชุมชนมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้เม็ดเงินลงทุนและการใช้จ่ายจากภาคส่วนต่าง ๆ จะเข้ามายังท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังอยากให้มีการพัฒนาสินค้าโอทอปให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการร่วมกันทำงานแบบบูรณาการ ทำให้สินค้าโอทอปขายให้กับนักท่องเที่ยวและสามารถกระจายสินค้าออกไปต่างประเทศพร้อม ๆ กันและกระจายสินค้าไปชายแดนร่วมทำตลาดประชารัฐกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว ที่จะนำสินค้าของทั้ง 2 ประเทศมารวมกันจำหน่ายใหักับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าท้องถิ่นมากขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน “มหกรรม Local Economy 4.0” ซึ่งจะจัดไปจนถึงวันพรุ่งนี้ (27 พ.ค.) อาคารแสดงสินค้า ฮอลล์ 7 – 8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยภายในงานมีการแสดงศักยภาพของสินค้าชุมชนกว่า 650 คูหา จำหน่ายราคาพิเศษ เช่น สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือสินค้า GI สินค้าออแกนิกส์ สินค้าจากตลาดต้องชม และสินค้านวัตกรรมจากผู้ประกอบการและนักธุรกิจรุ่นใหม่ และโซนให้คำปรึกษาทางธุรกิจ ซึ่งจะนำเสนอภาพรวมการให้บริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่การเริ่มต้นธุรกิจ การสร้างมูลค่าเพิ่ม การตลาดออนไลน์ และการก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย