พรรคเพื่อไทย 9 มี.ค.-“แพทองธาร” ประกาศเพื่อไทยหวัง 310+ หวังเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง ไม่ได้ “เศรษฐา” เผยส่งจดหมายลางานแสนสิริชั่วคราว ขอทุ่มเวลาช่วยพรรคหาเสียง เตรียมขึ้นเวทีปราศรัยแรกพิจิตร- พิษณุโลก
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังประกาศชูธง ปักแลนด์สไลด์เพื่อไทยทุกคน ให้ได้มากกว่า 310 เสียง ว่า เป็นการตั้งเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์มุ่งมั่นให้ได้เพื่อเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง และเป็นการกำจัดระบอบประยุทธ์ออกไป จึงเป็นเป้าหมายที่วางไว้
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องการเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง ไม่ได้ถูกแต่งตั้งโดยส.ว. แต่ต้องการเป็นรัฐบาลที่แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีได้จากเสียงของประชาชน เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เคยพูดไว้ทุกเวทีปราศรัย
ส่วนกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐออกจดหมายชวนก้าวข้ามความขัดแย้ง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ได้มองหาความขัดแย้ง ส่วนการจับมือยังเร็วเกินไปที่จะบอกวันนี้ว่าร่วม ไม่ร่วมกับพรรคไหน แต่มองหาคนอุดมการณ์เดียวกันเรื่องประชาธิปไตยและ ปัญหาปากท้องของประชาชน
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงการออกจดหมายลางานชั่วคราวจากบริษัทแสนสิริ ว่า การตัดสินใจเดินสู่ถนนการเมืองอยากทุ่มเทให้เต็มที่กับช่วงการเตรียมเลือกตั้งครั้งนี้ จึงขออนุญาตกรรมการบริษัทลาในช่วงการหาเสียงเพื่อลุยอย่างเต็มที่ โดยตนจะขึ้นเวทีปราศรัยที่จังหวัดพิจิตรและพิษณุโลกวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 11-12 มีนาคมนี้ จะปราศรัยเกี่ยวกับนโยบายพรรค และชี้ว่าสิ่งที่หัวหน้าพรรคและหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้ทำมาอย่างดีแล้ว และมาเป็นจุดเสริมอีกจุดหนึ่ง
เมื่อถามว่าการขึ้นเวทีคู่กัน ของทั้งน.ส.แพทองธารและนายเศรษฐาจะยิ่งเป็นการชูภาพเป้าหมายเเลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องของการนำเสนอนโยบายของพรรคเพื่อไทย ซึ่งที่ผ่านมาทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค น.ส.แพทองธารและทุกคนในพรรคทำมาดีอยู่แล้ว ซึ่งตนขอบคุณทีมเพื่อไทยทุกคนที่เป็นพี่เลี้ยงให้ เพียงได้ฟังหัวหน้าพูดก็รู้สึกฮึกเหิม ซึ่งการขึ้นเวที ถ้าพูดได้ดีเพียงครึ่งของหัวหน้าพรรคก็ดีใจมากแล้ว
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ทุกคนต้องช่วยกัน เพราะเป้าหมายเเลนด์สไลด์ 310 เสียงเป็นเป้าหมายที่ใหญ่มาก ต้องช่วยกันทั้งพรรคเพราะไม่สามารถทำได้เพียงคนเดียว ขณะที่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การประชุมใหญ่วันนี้ (9 มี.ค.) ยังไม่มีการพูดคุยกันเรื่องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค เป็นเพียงการประชุมใหญ่ตามกรอบกฎหมายที่ต้องประชุมภายในเดือนเมษายน ซึ่งการประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะมีข้อกฎหมายและข้อบังคับพรรคกำกับเอาไว้ รอยุบสภาเสร็จจะประกาศแน่นอน และพรรครอฟังเสียงประชาชนในการตอบรับ.-สำนักข่าวไทย