7 มี.ค.- นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า MEA ได้จัดตั้งทีมปฏิบัติการทางน้ำ Marine MEA เพื่อรองรับการให้บริการผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีพื้นที่ติดริมน้ำ และชายฝั่งทะเล ดูแลระบบไฟฟ้าให้มีความมั่นคง ปลอดภัย รองรับทุกสถานการณ์ฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้ว่าการ MEA กล่าวต่อไปว่า MEA ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบให้บริการจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ 3,192 ตารางกิโลเมตร แบ่งพื้นที่รับผิดชอบจำนวน 18 เขต ดูแลผู้ใช้ไฟฟ้าประมาณ 4.18 ล้านราย โดยมีจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้าทีมีพื้นที่ริมน้ำ และชายฝั่งทะเล อยู่ที่ประมาณ 6.8 แสนราย (พื้นที่รับผิดชอบจำนวน 12 เขต) จึงได้ตัดตั้งทีม Marine MEA ที่เป็นงานภาคสนามสายอากาศทางน้ำ เพื่อรองรับการปฏิบัติงานทางน้ำของ MEA ด้วยบริการที่มีประสิทธิภาพ โดยได้มีการวางมาตรการความปลอดภัยด้านระบบไฟฟ้าให้มีความมั่นคง ทั้งบริการปักเสาพาดสายในน้ำ การแก้ไขไฟฟ้าขัดข้อง ด้วยเรือแก้ไฟ และเรือปักเสาพาดสายในน้ำ ติดตั้งอุปกรณ์ระบบจำหน่ายไฟฟ้าต่าง ๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน การตรวจสอบบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา การดูแลช่วยเหลือประชาชนในการรื้อย้ายอุปกรณ์ไฟฟ้า นอกจากนี้ MEA ยังได้นำนวัตกรรมเข้ามาช่วยเหลือในการปฏิบัติงาน อาทิ การนำเอาลูกถ้วยแท่ง (Station post type) แบบ TR 202 มาใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อเพิ่มระยะห่างจากคอนเหล็กกับ Drop Fuse เสริมความปลอดภัย การนำอุปกรณ์เรือบังคับวิทยุตรวจจับไฟฟ้ารั่วในน้ำ มาช่วยตรวจจับไฟรั่วจากจุดศูนย์กลางไฟรั่ว 220 โวลต์ ในระยะรัศมีโดยรอบและในน้ำระดับความลึก 1 เมตร สร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชน ตลอดจนทีมปฏิบัติการดังกล่าวยังมีความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ MEA ยังได้เปิดตัวโครงการ “ท่าเรือสว่างไสว ประชาชนปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ในการติดตั้งโคมไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ให้ครอบคลุมท่าเรือสาธารณะทั้งหมด ประมาณ 80 แห่ง ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ร่วมขับเคลื่อนภารกิจมหาดไทย บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้ประชาชนเป็นของขวัญปีใหม่ 2566 ปัจจุบัน MEA ได้ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์โคมไฟฟ้า LED แบบโซลาร์เซลล์ ที่ท่าเทียบเรือสาธารณะในแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วเสร็จจำนวน 10 แห่ง เช่น ท่าเรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานนทบุรี ท่าเรือวัดเขียน ท่าเรือเทศบาลเมืองปากเกร็ด 1 และท่าเรือเทศบาลเมืองปากเกร็ด 2 และจะดำเนินการให้ครบทุกจุดในเดือนมีนาคม 2566
ทั้งนี้ MEA ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้มีความมั่นคง เพียงพอ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีด้านพลังงาน และคิดค้นนวัตกรรมการบริการใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงมีความพร้อมที่จะร่วมบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อมุ่งตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้า ให้บริการผู้ใช้ไฟฟ้าด้วยความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป
หากประชาชนพบเห็นสายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าของ MEA ชำรุดอยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย หรือต้องการความช่วยเหลือด้านระบบไฟฟ้า สามารถแจ้งเหตุได้ที่ MEA Smart Life Application ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนระบบ iOS และ Android ของ MEA ดาวน์โหลดฟรี คลิก https://onelink.to/measmartlife หรือช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line : MEA Connect, Twitter: @mea_news,Instagram : meafanclub และศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง