fbpx

ชาวนาให้กำลังใจยิ่งลักษณ์

ศาลฎีกาฯ 4 พ.ย.- ชาวนาแห่ให้กำลังใจ “ยิ่งลักษณ์” ระบุเห็นใจความลำบากของชาวนา พร้อมช่วยเหลือแม้ไม่มีตำแหน่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าเวลา 09.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  เดินทางมายังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  เพื่อร่วมรับฟังการไต่สวนพยาน ฝ่ายจำเลย นัดที่  6  ในคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลย ฐานความผิดปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว

การเดินทางมารับฟังการไต่สวนของอดีตนายกรัฐมนตรีในวันนี้  ยังคงมีอดีต ส.ส.  อดีตรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย  รวมทั้งกลุ่มมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจ และทั้งหมดพร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดขาว-ดำ  ซึ่งมีจำนวนมากกว่าทุกครั้ง เพราะมีกลุ่มชาวนาเดินทางมาให้กำลังใจด้วย โดยได้นำรวงข้าวมามอบให้แทนดอกไม้ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ


น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือชาวนาของรัฐบาลว่า ไม่ต่างจากโครงการจำนำข้าว ที่สำคัญรัฐบาลก็มุ่งหวังช่วยชาวนาโดยไม่หวังกำไรขาดทุน  ซึ่งจากการไปสัมผัสชาวนา พบว่าชาวนาลำบากจริง ๆ นอกจากปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำแล้ว ยังมีปัญหาหนี้สินจำนวนมาก ทำให้จำเป็นต้องขายข้าวออกไปในราคาที่ขาดทุน  เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงและอยากให้ทุกภาคส่วนช่วยเหลือชาวนา

น.ส.ยิ่งลักษณ์  ยังกล่าวถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าดราม่าในการลงพื้นที่ว่า ดิฉันเองมาจากประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากประชาชน รู้ซึ้งถึงบุญคุณของพี่น้องประชาชน วันนี้ชาวนาเดือดร้อน  แม้ว่าไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้ว  แต่ทำในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่เห็นใจชาวนาที่ลำบาก จึงลงพื้นที่ ไม่ได้มุ่งหวังประเด็นการเมืองแต่อย่างใด ถามว่าถ้ามองว่าเป็นภาพดราม่า ตนรู้สึกตื้นตันใจกับน้ำใจของชาวนาที่ยิ่งใหญ่  แม้ชาวนาจะมีความทุกข์มาก ไม่มีแม้แต่ข้าวสารกรอกหม้อ ไม่มีแม้เงินใช้จ่ายประจำวัน ยังมาให้กำลังใจตน ทำให้รู้สึกซาบซึ้งและขอบใจพี่น้องชาวนาที่มาให้กำลังใจ ใครมาเป็นแบบตน ย่อมรู้ว่าสถานการณ์นี้ก็หนัก  แต่ทุกข์ของตนไม่เท่าทุกข์ที่ชาวนาประสบ  อยากให้ทุกภาคส่วนช่วยชาวนา

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุให้ซื้อข้าวจากชาวนาทั้งประเทศไม่ใช่เฉพาะที่ลงพื้นที่นั้น  น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องให้รัฐบาลมองภาพรวมทั้งระบบและข้างหน้าด้วย  เพราะในเร็ววันนี้จะมีข้าวที่จะเกี่ยวเข้ามาอีก  ตนไม่สามารถไปก้าวล่วงเพื่อที่จะแนะนำได้  เพราะเชื่อว่ารัฐบาลก็ต้องมีทีมเศรษฐกิจที่เป็นมืออาชีพที่จะแก้ปัญหาให้กับชาวนา ตนไม่ได้อยู่ในตำแหน่งแล้ว  แต่อยากให้รัฐบาลมองว่างานตรงนี้คืองานที่รัฐบาลจะต้องเข้ามาแก้ไขให้กับชาวนา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าไต่สวน ได้มีอุปนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยจังหวัดเชียงใหม่  8  จังหวัดภาคเหนือตอนบน  ประธานกลุ่มชาวนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด  และอุปนายกสมาคมชาวนาไทยภาคกลาง  เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อให้กำลังใจในการสู้คดี และเป็นการให้ข้อมูลโครงการจำจำข้าวเพื่อประโยชน์ในการสู้คดี โดยระบุว่าโครงการดังกล่าวทำให้ชาวนาขายข้าวได้กำไร พอที่จะไถ่ถอนที่นา ลืมตาอ้าปากมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยชาวนาได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง ได้ประโยชน์สูงสุด  ซึ่งพร้อมจะให้ข้อมูลเพื่อใช้ในการสู้คดี

“ท่านคือนายกของชาวนา  ดูแลชาวนา วันนี้ชาวนาเดือดร้อนมาก ท่านก็เดือดร้อนเช่นกัน ต้องขึ้นศาลทุกเดือน  แต่ท่านก็ยังไปเยี่ยมชาวนาที่เดือดร้อน ช่วยซื้อข้าวสารชาวนา ช่วยให้ดำแนะนำ พวกเราชาวนาก็ยิ่งรักและเป็นห่วงท่านยิ่งขึ้น” ข้อความในจดหมายระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถึงเวลานัด 09.30 น. นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะรวม 9 คน ได้ออกนั่งบัลลังก์ในนัดไต่สวนพยานจำเลยนัดที่ 6 คดีโครงการรับจำนำข้าว หมายเลขดำ อม.22/2558 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท

แต่ปรากฏว่า นายชีพ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวน ได้แจ้งต่อคู่ความว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง พยานที่จะมาไต่สวนในวันนี้ ได้ทำหนังสือแจ้งต่อทนายความจำเลย ขอเลื่อนการไต่สวนออกไปก่อน เนื่องจากมารดาป่วยอยู่ในขั้นวิกฤติ จึงขอเวลาดูแลมารดาที่โรงพยาบาลก่อน ศาลสอบถามอัยการ โจทก์แล้ว ไม่คัดค้าน ศาลจึงให้เลื่อนการไต่สวนพยานปากนายกิตติรัตน์ออกไปก่อน

ส่วนนัดไต่สวนพยานในวันที่ 18 พ.ย.นี้ ก็ยังคงนัดไว้ ซึ่งทนายความจำเลย จะนำ นายอำพน กิตติอำพน อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย อดีต รมช.คลัง รัฐบาลยิ่งลักษณ์ มาไต่สวน ขณะที่ศาลอนุญาตให้เพิ่มวันไต่สวนพยานจำเลยอีก 2 นัดในวันที่ 7 และ 21 ก.ค.60 เวลา 09.30 น.  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด