ทส. ยกระดับมาตรการแก้ไขสถานการณ์หมอกควันไฟป่าภาคเหนือ

กรุงเทพฯ 17 ก.พ.- กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM2.5 พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยพบว่า ปีนี้สถานการณ์รุนแรงกว่าปี 64 พบเกินค่ามาตรฐานเป็นระยะๆ ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา คุณภาพอากาศหลายพื้นที่อยู่ในระดับส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ปัจจุบันพบสัดส่วนจุดความร้อนสะสมพื้นที่ป่ามากที่สุดถึงกว่าร้อยละ 70


นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือเนื่องจากสถานการณ์ในปีนี้รุนแรงกว่าปี 2564 โดยเริ่มเกินค่ามาตรฐานตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นระยะๆ จนถึงปัจจุบัน หลายพื้นที่ยังคงอยู่ในระดับส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

รายงานจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA พบสัดส่วนจุดความร้อนสะสมพื้นที่ป่ามากที่สุดถึงกว่าร้อยละ 70 รองลงมาเป็นพื้นที่เกษตรและพื้นที่เมืองตามลำดับ


นายปิ่นสักก์กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีห่วงใยสุขภาพอนามัยของประชาชนในภาคเหนือซึ่งกำลังประสบปัญหาฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) จากการเผาในที่โล่ง จึงสั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยกระดับการแก้ปัญหาในพื้นที่ภาคเหนือ

ล่าสุดนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ประชุมหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือ หน่วยงานภายใต้สังกัด ทส. ทั้งในส่วนกลางและในพื้นที่ เพื่อยกระดับการแก้ไขสถานการณ์หมอกควันไฟป่าภาคเหนือ โดยกำชับการแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการจากทุกภาคส่วน ยกระดับการแก้ปัญหาและเพิ่มการเฝ้าระวังควบคุมการเกิดจุดความร้อน (Hotspot) รวมถึงการพิจารณาปิดพื้นป่าอนุรักษ์และพื้นที่ป่าสงวนบางส่วนเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟป่ากลับมาลุกไหม้เพิ่มขึ้น

นายจตุพรกล่าวว่า การยกระดับการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าจะต้องพุ่งเป้าไปยังพื้นที่ที่เป็นปัญหาเป็นลำดับแรก เพื่อระงับปัญหาอย่างทันท่วงที โดยมอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมป่าไม้เข้าตรวจสอบพื้นที่ Hotspot ผ่านการหารือร่วมกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดของแต่ละพื้นที่ เพื่อพิจารณาการตั้งจุดสกัดหรือการปิดเส้นทาง การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ โดยจะต้องมีการส่งข้อมูลต่างๆ ให้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (ส่วนหน้า ภาคเหนือ) เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ และส่งข้อมูลแก่กรมควบคุมมลพิษเพื่อแจ้งเตือนข่าวสารให้กับประชาชนได้รับทราบ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุด คือ การประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องผลกระทบต่อสุขอนามัยจากหมอกควันไฟป่า พร้อมย้ำว่า หากมีการพบเห็นเหตุลักลอบเผาป่า ขอให้เจ้าหน้าที่พร้อมจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดในทันที


พร้อมกันนี้ปลัดทส. ยังได้กำชับให้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (ส่วนหน้า ภาคเหนือ) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ประสานงานกับทุกหน่วยงาน ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพิ่มความถี่ในการลาดตระเวน เฝ้าระวัง และดับไฟโดยเร็วที่สุด ให้ดำเนินการอย่างเต็มกำลังเพื่อคลี่คลายสถานการณ์โดยเร็วที่สุด และจะเข้มงวดติดตามและประเมินสถานการณ์ภายใน 3 วัน

ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศประจำวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ณ 07:00 น พบภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ พบเกินค่ามาตรฐาน 2 พื้นที่คือ จังหวัดน่านและสุโขทัย

ส่วนผลตรวจวัดตามรายภาคมีดังนี้

  • ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 2 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 24 – 66 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 13 – 28 มคก./ลบ.ม.
  • ภาคกลางและตะวันตก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 18 – 48 มคก./ลบ.ม.
  • ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 19 – 28 มคก./ลบ.ม.
  • ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 10 – 24 มคก./ลบ.ม.
  • กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 19 – 48 มคก./ลบ.ม.

สำหรับผลการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มที่ควรเฝ้าระวังบริเวณภาคเหนือตอนบนในช่วงวันที่  18-24 กุมภาพันธ์ ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลพบว่า อาจมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงได้ในบางพื้นที่โดยเฉพาะวันที่ 19-20 กุมภาพันธ์

ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เต้นฮากา

สส.เต้นฮากา ประท้วงในสภานิวซีแลนด์

ที่ประชุมสมาชิกรัฐสภานิวซีแลนด์เมื่อวานนี้ต้องระงับชั่วคราว หลังจากที่สมาชิกสภาหลายคนซึ่งเป็นชนเผ่าเมารี ได้ลุกขึ้นเต้นฮากา (haka) ขัดขวางการลงนามในกฎหมาย

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

จ่อชงหลักการเข้า คกก.กระตุ้นเศรษฐกิจ จ่ายเงินหมื่นกลุ่ม 60 ปีขึ้นไป

รมว.คลัง รับเตรียมเสนอหลักการเข้า คกก.กระตุ้นเศรษฐกิจ จ่ายเงินหมื่นคนอายุ 60 ปีขึ้นไป หลัง “ทักษิณ” เปรยบนเวทีปราศรัย จ.อุดรธานี ชี้ใช้งบไม่มาก ยืนยันไม่ทับสิทธิกลุ่มเปราะบางเฟสแรก บอกมีเฟส 2-3

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

ข่าวแนะนำ

คึกคัก ลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่วัดอรุณฯ

เริ่มแล้ว งานลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่วัดอรุณราชวราราม ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมคึกคัก มีการแสดงและกิจกรรมต่างๆ มากมาย

“จิราพร” มอบทนายนำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิงอ้างชื่อรีดทรัพย์

ทนายความ “รมต.” นำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิง อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่ม “ดิไอคอน” ยืนยันไม่เคยรู้จักกัน

พะยูนตัวแรกของฤดูกาลท่องเที่ยวโผล่

นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลท่องเที่ยว 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เพิ่งพบพะยูนบริเวณหน้าเกาะลิบง จังหวัดตรัง เป็นตัวแรก สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างมาก

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น