ทำเนียบรัฐบาล 19 ม.ค. 66 – “พล.อ.ประวิตร” จ่อชง ครม. ดันส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ 1.5 แสนตัน ปรับสูตรดีเซลเป็น B10 ลุยจับพ่อค้าฮั้วกดราคาปาล์มทะลาย
พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ได้ลงนามเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบ 2 โครงการสำคัญ ดังนี้ 1. โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 65-66 วงเงิน 6,128 ล้านบาท 2. โครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี 66 วงเงิน 309 ล้านบาท ตามมติ กนป. ครั้งที่ 3/65 เมื่อวันที่ 19 ต.ค.65 ที่ ครม.รับทราบ พร้อมความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วเมื่อ 17 ม.ค.66 นอกจากนี้ ยังให้ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะกรรมการ กนป. โดยตำแหน่ง รับข้อเรียกร้องจากเกษตรชาวสวนปาล์มที่ได้รับความเดือดร้อน ไปพิจารณาดำเนินการใช้มาตรการเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซลจาก บี7 (7%) เป็น บี10 (10%) โดยกำหนดให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 กลับมาเป็นน้ำมันดีเซลฐานของประเทศ และสนับสนุนให้ใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 เป็นทางเลือก ตามมาตรการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลของ กนป. ซึ่งได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ 1 ม.ค.63 ก่อนวิกฤตโควิด-19 อีกครั้ง
พล.อ.ประวิตร มีความห่วงใยชาวสวนปาล์มที่ได้รับผลกระทบจากกรณีราคาปาล์มทะลายตกต่ำในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีโรงสกัดน้ำมันปาล์มปิดซ๋อมบำรุงเครื่องจักรในปีนี้หลายแห่ง จนทำให้ปาล์มทะลายติดคิวหน้าโรงงานและลานเท โดยมีหยุดการรับซื้อ หรือรับซื้อในราคาที่ต่ำกว่าโครงสร้างราคาที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ซึ่งช่วงที่ผ่านได้แจ้งข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรี ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นคณะทำงานขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันในจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ พังงา รวมทั้ง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) เร่งแก้ไขสถานการณ์ให้คลี่คลายโดยเร็ว จากผลดำเนินการของคณะทำงานระดับจังหวัด และตำรวจท้องที่ ในการเข้าตรวจสอบโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม และลานเทในพื้นที่ รวมทั้ง กระทรวงอุตสาหกรรมได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจตราการดำเนินงานตามมาตรการ กนป. ของโรงงานทุกแห่งในพื้นที่แล้ว โดยหากพบว่า การรับซื้อหน้าโรงงานและที่ลานเท โดยไม่ปิดป้ายราคารับซื้อ หรือร้บซื้อต่ำกว่าโครงสร้างราคา หรือมีการฮั้วชะลอการรับซื้อ เช่น ปิดโรงงานโดยไม่มีการซ่อมบำรุงเครื่องจักรจริง หรือการกระทำอื่นใดในลักษณะอาจเข้าข่ายเพื่อสร้างความปั่นป่วนของราคา หรือกดราคารับซื้อ ให้เจ้าพนักงานพาณิชย์จังหวัดร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ ให้ข้อมูลว่า มาตรการปรับสูตร บี7 เป็น บี10 ทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นเดือนละ 5.2 หมื่นตัน กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ ปัจจุบัน สามารถเก็บเงินจากน้ำมันดีเซลได้ประมาณเดือนละ 10,000 ล้านบาท โดยในช่วงนี้จะใช้เงินกองทุนฯ ประมาณ 700 ล้านบาทต่อเดือน คาดว่าจะทำให้ระดับสต๊อกน้ำมันปาล์มในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ปี66 ลดลง เตรียมรองรับผลผลิตปาล์มน้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูปาล์มดกในเดือนเมษายนเป็นต้นไป เพื่อมิให้ระดับสต๊อกน้ำมันปาล์มสูงขึ้นมากเกินไปในช่วงกลางปี 66 – สำนักข่าวไทย